ความเป็นไทย...ใน Lonely Planet
  • 10 ปีที่แล้ว
รายการ คิดเล่นเห็นต่างกับคำผกา ประจำวันที่ 8 ธันวาคม 2556

จากบทความ “เรื่องเล่านักเดินทาง ภาพแทนและดินแดนเอ็กโซติก: การประกอบสร้าง “ไทย” ในหนังสือ Lonely Planet ของ อ.นัทธนัย ประสานนาม ที่ได้กล่าวถึงมโนทัศน์เรื่องวาทกรรมถูกประยุกต์ใช้อย่างกว้างขวางในวงการมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ “เอ็ดเวิร์ด ดับเบิลยู ซาอิด” ซึ่งเป็นนักคิดอีกคนหนึ่งที่ใช้แนวคิดของฟูโกต์มาอธิบายสิ่งที่เขาเรียกว่า บูรพคดีนิยม( Orientalism) บูรพคดีนิยมนี้จะโยงใยไปเป็นระบบของการ “รับรู้” และ “การนำเสนอภาพแทน”ในโลกตะวันออก

“ซาอิด” ได้กล่าวถึงบูรพคดีนิยมในฐานะที่เป็นวาทกรรมชุดหนึ่งได้สร้างตะวันออกขึ้นมา โดยที่ตะวันออกดำรงอยู่จริง สำหรับตะวันตกในตัวบทนั้นๆและบูรพคดีนิยมหรือความเป็นอื่นของตะวันออกเมื่อซ้ำมากเข้า ก็กลายเป็นความจริงขึ้นมาในความคิดของผู้อ่าน

วรรณกรรมการเดินทาง(Travel writing)ของชาวตะวันตกที่มาเยือนประเทศไทย นั้นมีจำนวนมากที่เขียนถึงประเทศไทยทั้งในลักษณะหนังสือนำเที่ยวและบันทึกการเดินทาง เช่นเรื่อง “ภาษา” ที่ใช้สื่อการท่องเที่ยว เป็นวาทกรรมที่มีรูปแบบเฉพาะที่มีความพยายาม ชักจูง เชิญชวน หลอกล่อ ให้ผู้ที่มีความคิดที่จะท่องเที่ยวออกเดินทางไปยังดินแดนต่างๆ โดยแบ่งออกเป็น 4 มุมมองคือ 1.ความเป็นจริงแท้ 2.ความแปลกต่าง 3.การละเล่น ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจ แต่งเติมเสริมแต่งเกินความเป็นจริง 4.ความขัดแย้ง เป็นการนำเสนอภาพลักษณ์ ดินแดนที่นักท่องเที่ยวอยากจะเดินทางมาท่องเที่ยวไม่เหมือนกับความเป็นจริงทางสังคมและวัฒนธรรมของดินแดนนั้นๆและสร้างให้ดินแดนนั้นเป็นสิ่งที่ตื่นตา ตื่นใจ โดยไม่คำนึงถึงองค์ประกอบทางสังคม วัฒนธรรมของถิ่นนั้นๆ

ในหนังสือ Lonely planet หรือนักเดินทางผู้โดดเดี่ยว และยังหมายถึง ราคาถูก สามารถเดินทางในระยะยาวได้หนึ่งปี แสวงหาของแท้ ดั้งเดิม ของพื้นเมืองและเดินทางอย่างใกล้ชิดกับคนท้องถิ่นมากกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป กลุ่มนักเดินทางแบบสะพายเป้ ที่เริ่มงานเขียนใน Lonely planet คือโทนีและมอรีน วีลเลอร์ (Tony and Maureen Wheeler)ที่หลอมรวมประสบการณ์การเดินทาง ของนักเดินทางคนอื่นๆอีก เช่นการเขียนถึงประเทศไทย ส่วนแรกให้ความรู้ภาพกว้างของประเทศ และส่วนที่สองเป็นการให้รายละเอียดที่เจาะจง เฉพาะแต่ละจังหวัด

การกล่าวถึงกรุงเทพฯ Lonely planet ยังได้เสนอภาพที่น่าพิศวง เช่นความร้อน คนร้องขายของ และชายหญิงขายบริการ กรุงเทพฯได้กลายเป็นสวนสัตว์ยามค่ำคืน เช่นจะได้เห็นช้างเดินตามถนน มีไฟท้ายติดอยู่นอกจากนี้ความทรงจำที่ดีที่สุดเกี่ยวกับประเทศไทย เช่นกลิ่นหอมและเสียงระฆัง เสียงร้องเหมือนห่านของรถโดยสารประจำทาง ผ้าสีผูกตามต้นไม้ กลิ่นพริกโชยจากร้านอาหารริมทาง หรือไก่ย่างจนเกรียมเป็นต้น