Skip to playerSkip to main contentSkip to footer
  • 6/2/2025

Category

📺
TV
Transcript
00:00:00สวัสดี
00:00:30เมืองหลงของโมนทนศาลศรี่ก็เหมือนกับเมืองสุนกลางทางกันค้าอื่นๆของประเทศชีมในปัจจุบัน
00:00:58ที่ไม่สามารถปิดกั้นตัวเองจากความเจริญและเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้
00:01:10ซีอารในปัจจุบันมีทุกอย่างที่เมืองใหญ่ๆในโลกมีความหนาแน่น ความทันสมัย แฟชั่น และฟาสฟูด
00:01:18ซีสันของเมืองซีอารในวันนี้อาจจะไม่ต่างอะไรกับในอดีต ผิดกันก็แต่ชนิดของสินค้า ผู้คน และภาณะที่ใช้เท่านั้น
00:01:28กว่า 1,000 ปีก่อน ในสมัยราชวงทั้ง ที่นี่คือดินแดนที่รู้จักในชื่อ นคร ฉ่างอัน
00:01:34เมืองที่พ่อเขาวานิจจากทุกสราธิก มุ่งหน้ามาค้าคาย
00:01:38บางกว่าจัดเภริมสินค้า พหนะ และสเบียงก่อนออกเดินทางไปดินแดนตะวันตก
00:01:43ผ่านเส้นทางซ้ายใหม่อันทุรากกันดาล
00:01:45จุดร่อมต้นอันเพื่องปูของนคร สีอาน อาจมองย้อนหลังไปได้ไกลกว่า 2,000 ปี
00:02:00นับตั้งแต่สมัยจิ้มสี่ห้องเต กระสัทผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงชิง
00:02:04ส่งแผ่พระราชอำนาจอันภัยสาร รวบรวมแว่นแค้นต่าง ๆ ที่กระจัดกระจายอยู่ได้สำเร็จ
00:02:10และสถาปนาประเทศจีน เป็นราชอาณาจักษ์ที่มีสุนกลางอำนาจเดียว
00:02:15มีเมืองหลวงชื่อ เสียนอย่าง ที่ครองความเป็นเมืองมหาอำนาจที่สุดในยุคสมัยนั้น
00:02:25แม้ว่าจิงสี่ห้องเต จะได้ชื่อว่าเป็นกษัทพระองค์แรก ที่รวบรวมประเทศจีนเป็นปึดแผ่น
00:02:31ส่งหวางมาตรฐานสะกุลเงินจีน และอักษรจีน แต่พระองค์ก็ส่งปกรองด้วยอำนาจพระเด็จการ ไหร้ความเมตา
00:02:38ส่งประหารชีวิตชนชั้นปัญญาชน เพาะตำหรับตำรามมากมาย
00:02:43และเกมแรงงานไพร้ฟ้าค้าแผ่นดิน ให้ไปทำงานตามพระราชประสม
00:02:48ข้อเทศจริงในเรื่องนี้ถูกยืนยันอีกครั้ง มือได้มีการคุดพบหุ่นปั้นดินเผา กล่องทัพธหารจิน 4 จำนวนกว่า 7,000 ตัว
00:03:02ตั้งแต่ปี 2,517 สร้างความสตื่นตะลึงไปทั่วโลก
00:03:07สุขสารนี้พบโดยบางเอิน ขณะที่ชาวบ้านกำลังคุดบ่อน้ำ
00:03:12และเมื่อทั่งรัฐบาลจีนได้เข้าไปดำเนินการคุดคล
00:03:15ก็พบตุกตาทหารเดินปั้น พร้อมอาวุธยุทโทปกร ม้า และรถศึตจำนวนมาก
00:03:24ตุกตาทหารจำนวนมหาศาลเหล่านี้ จังขพัดจิน 4 ห้องเต้
00:03:29ได้เก่นผู้คนพลมืองจำนวนนับมือนับแสนคนมาสร้าง
00:03:32เพื่อเป็นองคระรักภ์พี่ทักสุสารของพระองค์
00:03:35การบางคับขูเข็น ความทารุนโหดร้าย
00:03:38ทำให้เกิดความเดือร้อนไปทุกยอมยา สร้างความเคียดแค้นชิ่งๆ ให้กับประชาชนทีละน้อย
00:03:44จนประทั่งถึงจุดระเบิด เมื่อฝุงชนนับมือนับแสนที่ประองค์บางคับขูกเข็นมานั้น
00:03:49ได้ลุกคือขึ้น เข้าเผาทำลายตุกตาทหารประองค์จมหมดสิ้น
00:03:54ประจุบัน รูปปั้นดินเผาอายุกว่า 2,000 ปีที่ขุดพบนี้
00:04:08รัฐบาลจีนได้จัดแสดงไว้ในอาคารขนาดใหญ่
00:04:11ที่สร้างคร่อมพื้นที่ขุดพบตามสภาพเดิม
00:04:14และบางส่วนได้ถูกนำเข้าไปเก็บรักษาไว้ในพิพิตภัณฑ์
00:04:17ที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน
00:04:19และได้กลายเป็นแหล่งปราณคดีที่ทำเงินเข้าประเทศได้อย่างมากมาย
00:04:23เซื่อกรอบคุณสึกตัวนี้
00:04:36ประกอบด้วยกระเบื่องดินเผาเย็บติดกันถึง 612 แผ่น
00:04:40และที่ถือเป็นงานชิ้นเอกที่ขุดพบก็คือ
00:04:43รถม้าที่ทำด้วยทองเหลืองทั้งคันจำนวนสองชิ้นในสภาพสมบูล
00:04:48บริเวณที่ขุดค้นพบกองทัพธหารดินเผา
00:04:51อยู่ใกล้กับสุสารจินสี่ห้องเต
00:04:53ซึ่งหลักฐานทางประวัติศาทกล่าวว่า
00:04:55ภายในสุสารบันจุไว้ด้วยเพชนินจินดาและกัสพิบ
00:04:59สุสารถูกปิดตายไว้พร้อมกับชีวิตของช่างฝีมือ
00:05:03และพร้อยผลมากมายที่เกนมาก่อสร้าง
00:05:06ประจุบันความรับของสุสารจินสี่ห้องเต
00:05:10ยังไม่ถูกเปิดเผย
00:05:12แต่การขุดค้นบริเวณโดยรอบ
00:05:14ยังคงดำเนินต่อไปอีกนับสิบปี
00:05:16และคาดว่ายังคงมีรูปป้านดินเผาทหาร
00:05:19ฝังอยู่อีกมากมายหลายเท่ากว่าที่ได้พบมาแล้ว
00:05:22หลังจากสมัยราชวงชิ่งสูญสิ้นอำนาจ
00:05:26จินก็อยู่พายใต้การปกครองของกศรราชวงหัน
00:05:29มายาวนานถึง 400 ปี
00:05:31เป็นยุคที่จินขยายอาจักษ์อย่างกว้างขวาง
00:05:34ไปจนตรดเอเชียกลาง
00:05:36ประวัติศาสตร์หน้าแรกของเส้นทางการค้าสู่โลกตะวันตก
00:05:39ได้ถูกมันทึกขึ้นในสัตวัตวัตินี้
00:05:42ต่อมาในสมัยราชวงสุญจึงมีการย้ายมึงหลวงจากเสียญหยางมาอยู่ที่ฉังอัน
00:05:52จนล่วงเข้าสู่สมัยราชวงทั้ง
00:05:55นครฉังอันจริงเจรยร่วมเรืองถึงขีดสุด
00:05:58กลาบกันว่าเป็นมหานครที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย
00:06:02ดึงดูดพ่อข้าววานึก ชั่งฝีมือ นักโบท สิละปินนักแสดง ภาหาร คุณนาง
00:06:08ให้มาชมนุมกันอย่างคับทั่ง เรียกได้ว่าเป็นยุคทองของราชวงทั้งเลยทีเดียว
00:06:18นครฉังอันล้อมรอบด้วยกำแพงเมือง 4 ทิป ยาวรวมกันถึง 14 กิโลเมตร
00:06:24ทุกด้านมีประตูเมืองเปิดเข้าออกเป็นเวลา รวม 11 ประตื่
00:06:30ความใหญ่โตของกำแพงนครฉังอันนั้น สูงถึง 12 เมตร หน้า 18 เมตร
00:06:35บริเวณภายในกำแพงเป็นสถานที่ทำราชการงานเมือง
00:06:38เป็นสุนกลางธุรกิจการค้านานาชาติ
00:06:41และเป็นย่านที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติต่างสัสนาอีกด้วย
00:06:48กล่าวกันว่าในราวคลิสตรวัสที่ 8
00:06:50นครฉังอันมีพลมืองมากถึง 2 ล้านคน
00:06:54หากกำแพงมืองฉังอันสร้างไว้เพื่อป้องกันค่าศึกษตรูภายนอก
00:06:57มันจึงไม่อาจต้านทานความเสื่อมสลายที่เกิดจากความอ่อนแอร์ภายในตนเองได้
00:07:09ดังเช่นที่เกิดกับราชวงทั้งในเวลาต่อมา
00:07:13ประจุบันกำแพงมืองสีอานยังคงทำหน้าที่ประดุดเมื่อพันกว่าปีก่อน
00:07:22แต่ก็ไม่อาจทานอำนาจการุกรานจากอรียาธรรมไภนอกล้าย
00:07:26ชางอันหรือสีอานในวันนี้จึงเป็นมืองที่เคละข้าไปด้วยปลิ่นไอโลกตะวันตกอย่างเต็มที่
00:07:33เก็บพื้นที่เล็กๆ บางส่วนว่าให้วิธีชีวิตดั้งเดิม
00:07:37เพื่อรำลึกถึงอดีตอนรุ่มเรื่องในธนาศูนย์กลางการค้าแห่งเส้นทางสายไหม
00:07:47แต่แม้กรว่านั้น ร่องรอยของอำนาจและความรุ่มเรื่องของราชอาณาจักษ์
00:07:52ความแบ่งบาลของพุทธศัสนา ก็ยังกระจายให้เห็นอยู่ทั่วดินแดนสี่อ่าน
00:08:02เจดีหันใหญ่ในวัตต้าเอียนฐา สร้างคืนในสมัยราชวงถัง
00:08:08เมื่อพุทธศักราษ 1195 เพื่อเป็นที่ประเด็จสถานพระไตรปีดก
00:08:13ซึ่งพระถังสำจังได้นำมาจากประเทศอินเดีย
00:08:16และได้จำพันษาที่นี่ เพื่อแปลพระไตรปีดกเป็นพระสาจีนไว้ถึง 1335 เล่ม
00:08:23วัตต้าเอียนฐาแห่งนี้ทำให้เราได้ประจักษาทถึงบทปาสำคัญของเซ็นทางสายไหม
00:08:29ที่ได้เชื่อมผู้คนสองฝากฝั่งธวีพ ต่างเชื่อชาติ ต่างความเชื่อ ให้ล้อมรวมเป็นหนึ่งเดียว
00:08:38สายรักที่ ikke่าแก่ที่สุดในประวัต навศศัพษต countries
00:08:42กับตัววันตกของจีนก็คือ สายสามารถสายใต้
00:08:48กงคารวันสญล์คาจากจีน จะตั้งต้นที่เมืองฉางอัน
00:08:51เดินทางสู่เมืองตุ้นหวางในมนธนการสู่
00:08:54ก่อนจะมิ่งหน้าทางตัววันตกเข้าสู่ดินแดนทะเลสไฟ
00:08:57ลัดและลงใต้ไปตามเท graduating level ถ้าครามากัน
00:09:02เข้าสุดเหมือนคอชก้า มืองช йด ans ที่แหลงรวมคิหลัวติ้นค้าจากสร Spinx
00:09:07ก่อนที่ยากย้ายต่อไปยังดินแดนต่าง ๆ
00:09:10บางก็มึงนาหลงใดข้ามที่ข่าวคาราโคลัม 頭ัง что-?
00:09:14หรือข้ามที่ราบสูงปามี ไปおปากีสถาน อัพกาณิสถาน อิราท
00:09:21สล pins ที่มาโคโปโลต ใช้เวล่นทางมาจาก êtesมากเจิญ 속 instruments ในอิตาลี่
00:09:26เต้ามาสู่ประเทศจีนเมื่อกว่า700 ปีก่อน
00:09:31ต่อมาเส้นทางสายหมายสายเนืา ก็กลายเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญอีกสร้างหนึ่ง
00:09:37เรียกได้ว่าในเซ็นทางที่นำพุทธศัตรีสนามาสู่ประเทศจีน
00:09:41เมื่อพระทั่งสำจัง ได้ใช้เส้นทางนี้ร przew ?"Пยा Parce 실내 อินดี
00:09:46ที่นำพระพุทษษาตสนามาเผยแพร่ในประเทศจีนเมื่อ 2000 กว่าปีก่อน
00:09:50เศ่นทางนี้แย่จากเศ่นทางสายใต้ที่เมืองตุ้นหวาง
00:09:54ด้วยกรองฅละวาล Laura coon- forgive you
00:09:56เนาะไปต่อห์ที่เขาเผี่ยนช่านตอนใต้
00:09:59และแนวขอบทเลซายทะครามกันตอนเหนือ
00:10:01เข้าสู่ Meng Ming-Tachka
00:10:03จึงเดินทางตอบไปยาง pizza
00:10:06บ้าน LIKE ฟังทะเลเมดิเตอร์เรเนี่ยน และอนาจักรโรมัน
00:10:09จนกระทั่งในราวคลิศทรวัสที่ 6 เพราะชวงถัง
00:10:13ได้เปิดเส้นทางการค้าสู่ตะวันตกอีกสายหนึ่ง
00:10:16เรียกกันว่าเส้นทางซ้ายเนื้อซ้ายใหม่
00:10:19โดยแยกจากซ้ายเนื้อเดิมที่เมืองหามิ
00:10:22จากนั้นจะเดินทางลอกไปตามเชิญเขาเทียนชาญด้านเหนื้อ
00:10:25มุงหน้าตอวันตกไปยังเมืองยิ่นหนิง
00:10:55แม้ในปัจจุบัน เส้นทางสายไหมสายใต้
00:10:58ก็ยังคงเป็นเดียนแดนที่ลี้รับและห่างไลกลความเจริญ
00:11:02นึงด้วยหนทางที่โผ brunch และธุราระกันดาน
00:11:05เต็มไปด้วยอันตราย
00:11:06ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา
00:11:08มีเพียงคณะสำรูจเช้าตะวันตก เพียงไม่ Reed
00:11:12ที่เคยผ่านเข้าไปในเส้นทางสายนี้
00:11:14และพวกเราจะเป็นคณะนักสำรวจไทยชุดแรก
00:11:19ที่จะเดินทางย้อนรอยทางของมาโคโปโล
00:11:22ไปตามเส้นทางสายไหมสายใต้
00:11:25จากเมืองซีอานสู่เมืองคัชก้า
00:11:27ด้วยระยะทางกว่า 3,900 กิโลเมตร
00:11:30ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
00:11:32บันทึกของมาโคโปโล
00:11:39ได้เปิดเผยให้โลกได้รับรู้
00:11:40ถึงเรื่องราวในผ่านดินจีน
00:11:42และวิทธีชีวิตพู Lilith
00:11:48สายไหมได้ยังละเอียดและชัดเจนที่สุด
00:11:52แล้วเรากำลังจะเดินทางเข้าไปที่นั้น
00:11:56เพื่อการจัดข้อสงสัยที่ว่า
00:11:56พวกเขาเดิมรงชีวิตกันอยู่ได้อย่างไร
00:12:00ในสะภาพครูมิประเทศที่ทุร throne glem
00:12:03เช่นนั้น
00:12:06จากเมืองซีอาน
00:12:07เราตอนสันใจจะเดินทางโดยเครื่องบิน
00:12:09มุงน่าสู่เมืองต้องห้าง
00:12:10ที่กลาบกันว่า มือได้เข้าไปแล้วก็ยากที่จะรอดกลับมาได้
00:12:17สองชั่วโมงครึ่ง เราก็มาถึงเมืองตุ้้นหหวาง
00:12:21เมืองใหญ่ไชขอบทะเลไซช่ะอันแห้งแล้งกันดาน
00:12:24และเราต้องตรอ todoけれมีกรองฬ์คราวารสู่เส้นทางสายไหม
00:12:27shifted with Informate
00:12:30ต้family
00:12:34ที่นี้เรียกได้ว่าเป็นโอเอซสที่มีขนาดใหญ่
00:12:38เป็นเมืองด่านสุดท้าย จุดแว่พักกองคลาว Anthony
00:12:40ที่จะเดินทางเข้าออกระหว่างชินกับโลกภายนอก
00:12:44ตุ้นหวังจะเป็นแหล่งชมนุมการซื่อขายแรกฝึง ฟุมค้ pasado
00:12:51จากอดีต เมืองชมทางการแคลขของเส้นทางสายใacingในแสรุ่ม Vuong
00:12:56ในวันนี้ ตุ้นหวังกำลังเปลี่ยน ชมหน่าเป็นเมืองท่องเ�etี่ยว
00:13:00ทางซ้ายประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยตาย
00:13:03สถุบมากขาว สัญลักษ์ของความเจริญสัทธาในพุทธษณาของชาวจีน
00:13:08ในสมัยราชวงหัน เมื่อเรา 2,000 ปีมาแล้ว
00:13:12พระกูมานชีวะ พระภิกษุผู้ศึกษาพุทปรัสยาจากชมพูทธวี
00:13:17ปริชาสามารถทั้งในพุทธนิกายหินนายานและมหายาน
00:13:21ได้เดินทางฝากทะเลซายจากแว่นแค้นตะวันตกมาถึงมืองตุ้นหวาง
00:13:26เพื่อเผยแผ่พระไตรปิดก
00:13:29ตำนานกลาวไว้ว่า เมื่อมาถึงตุ้นหวาง
00:13:32มาขาวคู่ทุกคู่ยากที่นำทางมาก็ถึงแกะความตาย
00:13:36พระกูมานชีวะ จึงได้สร้างจะดีไว้เป็นอนุสสรณะสุดสรรณ์ของมาขาวแห่งนี้
00:13:43แม้เวลาจะล่วนมานานกว่า 2,000 ปี ตุ้นหวางยังคงทำหน้าที่เมืองชุมทางไว้อย่างเรียม
00:13:53กลิ่นอายทะเลซาย แหล่นสินค้าหลากชนิด และร่องรอยอารยาธรรมโบราณ
00:13:58อย่างครูปเขาซืมแซกอยู่กับวิธีชีวิตของชาวเมือง
00:14:05บ่ายคล้อย อากาศเริ่มคลายความร้อนลงบ้าง
00:14:09อปหร ihanitte ป 요�ดีเมือง บ้างชาวบ้านชอมมืองเริ่มดำสินค้าออกมาวางขายกับเรื่อยรึย
00:14:13พวกคนที่นี่ส่วนอย่าเป็นฉ่าง Hunter ก็คือฉ่าชีมนั่นเอง
00:14:17สมัยร่ชวง Hunter Feld มีฉ่าชีบมาตั้งถึงฐานอยู่ถึงchemet7 โปรเซเศ็นต์
00:14:22โดยเฉพาะเป็นพวกนักโทั่ที่ถูกเมืองกระเทศให้มาอยู่ชายแดง
00:14:27พ���ริ่มเย็นลง majority
00:14:30ผู้คนก็เริ่มออกมาหาอาหารท่านกันนอกบ้าง
00:14:33ในหน้าร้อนกลังวันที่นี่จะยาวมาก
00:14:37กว่าแดดจะหมดก็เกือบสามฝึง
00:14:45และอาหารที่ขึ้นชื่อที่สุดของที่นี่ก็คือ
00:14:48เนื้ซาแพะเสียบเล็กย่าง
00:14:50ท่านกับก่าบับผสมเครื่องเทฯ
00:14:53รสชาติอร่อยมาก
00:14:55สนมราคาก็ไม่แพง
00:14:57เพี่ยงไม้ละหนึ่ง ہ셋วน
00:14:58เลยมีลูกค้ามาอุดหนุ่นกันแน่นแทบทุกร้าน
00:15:03ปัจจุบัน เราจะเห็นทั้งวิถีชีวิตแบบจีลและมุสลิน
00:15:07ที่คละคล้าวกันอยู่ในชุมชนแห่งนี้
00:15:24ห่างออกไปจากเมืองตุ้นหวางไม่ไกลนัก
00:15:27มีการคนพบทําพุทธรูปจำนวนมาก
00:15:30เจาเข้าไปในหน้าผาหินกลางทะเลซาย
00:15:32ที่มีอายุมากกว่า 1,500 ปี
00:15:35สนิฐานว่า เริ่มสร้างขึ้นในสมัยราชวงเว้ย
00:15:39แล้วมีการสร้างต่อกันมาอีกหลายราชวงติดต่อกัน
00:15:42ยาวนานถึงกว่า 500 ปี
00:15:47ทําพระด้านที่ใต้ที่คนพบมีจำนวนมากถึง 492 คู่หา
00:15:52เป็นแนวยาว 1,600 มตลอดหน้าผา ภายในประเด็จสถานพระพุทธรูปราว 2,400 องค์
00:15:58และภาพเขียนสีบนผนังทํา รวมแล้วกว่า 45,000 ตรางเมตร
00:16:04ส่วนคู่หาทําด้านเหนืออีก 248 คู่หา
00:16:10เป็นทําที่อยู่อาศัยของผู้คนในสมัยโบราณ
00:16:14ผู้เขาอาจเป็นนักเดินทางอย่างเรา
00:16:16หรืออาจเป็นเหล่าผุทธสัตวนิกระชน
00:16:18ที่มาสร้างงานเพื่อพระสาศนา
00:16:20ไว้เป็นผุทธบุชาสืบต่อมา
00:16:23ชื่อเสียงของท่ำโมเก่า เรื่องหลือไปทั่วในหมูนักโบรัณคดีตะวันตก
00:16:30มือท่ำที่เก็บตำราโบราณหมายเล็ก 17 ถูกคนพบโดยพระพิกษุ หวังหยวนลู
00:16:38มือราว 100 ปีที่แล้ว
00:16:40นับแต่นั้นมา นักล่าสมบัติก็ได้เดินทางมาที่นี้ไม่ขาดระยะ
00:16:45คนเอาคำผีทางสาสนา ตำราศิลปะวิทยาการ
00:16:49จำนวนหลายหมื่นเล่มกลับไป แม้กระทั่งภาพเขียนสีบนพนังธรรม
00:16:55ก็ยังถูกกระเท้าออกไปด้วย
00:17:05ปัจจุบันทางการจีน ได้บรุณธังเข้าธรรม
00:17:09และสร้างประตูธรรมว่อย่างแข็งแรง เพื่อป้องกันโจรกรรม
00:17:13แต่กว่าจะถึงวันนี้ มรดกทั่งวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่และงดงามของโลก
00:17:17ได้ตกอยู่ในกำมือของนักล่าสมบัติชาติตะวันตกไปเป็นจำนวนมาก
00:17:27ผู้ทศิลในท่ำโมเก่า ได้บอกเล่าความเปลี่ยนแปลงของพุทธศัสนาในจีนแต่ละยุคสมัย
00:17:33สิลปะภายในท่ำยุคแรกแรกนั้น แสดงให้เห็นว่า
00:17:37จีนเพิ่งได้รับอิทธิพลพุทธศัสนามาจัยอินเดียอย่างเต็มที่
00:17:41ภาพเขียนสีที่แสดงเรื่องราพุทธประวัติ และพระพุทธรูป
00:17:45ที่มีพุทธลักษณะแบบอินเดีย
00:17:53แต่ในยุคต่อๆมา โดยเฉพาะสมัยรอชวงทั้ง
00:17:57ซึ่งเป็นช่วงที่พุทธศัสนามเบ่งบ้านเต็มที่
00:17:59พระพุทธรูปที่สร้างไว้ในท่ำยุคนี้จะมีขนาดใหญ่โต
00:18:03พระพักอิ่มเอิบ เป็นพุทธศัสน์ที่แสดงถึงความเรื่องใส
00:18:09ในนิกายมหายาลแบบจีนของผู้คนในยุคนั้น
00:18:13มีหลักษาแสดงว่า นักเดินทางบนเส้นทางสายไหมในอดีตทุกคน
00:18:27จะเดินทางมาที่นี้ เพื่อขอพอนจากพระในท่ำโมเก่า
00:18:31ให้ช่วยปกปักรักษาให้ปลอดภัยในการเดินทางอันยาวนาน
00:18:35ลงจบ Drugisfalm Annual National Search
00:18:39เมืองตุ้นหวางตั้งอยู่ใกล้กับเขามิ่ง violation ที่เป็นสั่นไซ์
00:18:43หรือแสดงดืนขนาดมะหือมากว้าง 70 กิโลเมตร
00:18:47เพราะตัวเป็นแนวอย่างเป็นตัวยะทางกว่า 100 กิโลเมตร
00:18:51แสดงดืนเกิดจากการกระทําของพ่ายุที่หอพัทอมเมศสายมาตกพัดถวับผมกัน
00:18:54ครั้งแล้ว
00:18:56ครั้งเล่านานสัตวัตวัตร
00:18:59จนกลายเป็นแนวสังสายที่สูงชัน
00:19:02แสนดูนจะเปลี่ยนรูปทรงไปตลอดเวลา
00:19:04ตามการเปลี่ยนแปลงของกระแสลมในทะเลสาย
00:19:13ที่นี่มีทะเลสาพแผงหนึ่ง
00:19:15เกิดจากแหล่งน้ำใต้ดิน
00:19:16ที่ผุดขึ้นกลางทะเลสาย
00:19:18เป็นแห่งรูปพระจัดเสียว
00:19:21สังสายมิงสาสันและทะเลสาพพระจัดเสียว
00:19:25ดึงกลายเป็นสถานที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยว
00:19:28หลังไหลมาสู่มืองตุ้นหวางได้อย่างมากมาย
00:19:33แต่การเดินทางต่อจากตุ้นหวาง
00:19:35เพื่อเข้าสู่ทะเลซายท่าคลามมากัน
00:19:38บนเส้นทางสายหมายสายใต้
00:19:40ก็ยังเป็นดินแดนต้องห้าม
00:19:42ที่นักเดินทางน้อยราย
00:19:43จะมีโอกาสได้เข้าไปสัมผัส
00:19:46แต่พวกเรา
00:19:47กําลังจะเป็นหนึ่งในจํานวนน้อยนั้น
00:19:56ก่อนออกเดินทาง ภาณะของเราตรวจความพร้อมกันอีกครั้ง
00:20:00ทั้งผ่านที่เส้นทาง สเบียงอาหาร สัมภาระ
00:20:04โดยเฉพาะน้ำหรืมที่ต้องขนไปเป็นจํานวนมาก
00:20:11เราทับผ่านเส้นทางจํานวนหลายรอบ
00:20:13เพื่อให้แน่ใจว่า
00:20:14เราจะต้องเดินทางข้ามทะเลสายกี่วัน กี่คืน
00:20:18กับสเบียงที่เราเตรียงนั้นเพียงพอหรือไม่
00:20:21จุดหมายปลายทางที่เราจะต้องไปให้ถึง
00:20:24ด้วยเรียทางกว่า 2,200 กิโลเมตร
00:20:27คือเมืองคัชก้า
00:20:28เมืองสุดท้ายบนเส้นทางสายไหมในประเทศจีน
00:20:32ก่อนที่จะข้ามพรมแดนไปสู่เอเชียกลาง
00:20:36รถ 4WD 7 คัน
00:20:38คนยืดสิบหัดคน
00:20:40กับผู้ขาวสูง ทะเลสาย และความไม่แน่นอนของธรรมชาติ
00:20:46วันแรกของการประจนภัยของเรา
00:20:48สู่เส้นทางสายใต้
00:20:50เส้นทางสายไหมสายแรกที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์
00:20:54ก็ได้เริ่มขึ้น
00:20:56เราออกจากเมืองตุ้นหวางด้วยความกระหายที่จะได้ประจนภัยบนเส้นทางสายอรยาธรรม
00:21:10ที่นักเดินทางทุกคนใส่ฝัน
00:21:12ขนативเราได้ไปกับแนวทะเลสายเวิร์วาง
00:21:16เป็นเส้นทางที่มุ่งลงใต้สู่มนทล الشินหัย
00:21:20เส้นทางสายไหมสายใต้
00:21:22ที่เรากำลังเดินทาง
00:21:25ย้อ cámaraรออยการทางของมาควปโล่ได้
00:21:27เวลาดให้มุ่งเข้าอัดสายที่สุด
00:21:35จากทุ้นหวาง
00:21:38ทะล clearance เราจะมุ่งน่ามด้วยทางตะวันตกชีนใต้
00:21:40ฝ่าทะเลซ่ายเข้าสู่มนธนชิงไห่ แล้วจึงตรงข้าวมนธนเจียง
00:21:44บ่ายหน้าไปทางตรวันตก ละล้อตตามเชิงเขาด้านเนื้องของเท่าข่าคุณหลุ้น
00:21:49ที่ขนาดกับแนวทะเลซ่ายทะครามากันตอนใต้
00:21:52เข้าสู่เมือง Khursu หรือ Khachgar
00:21:54ซึ่งเป็นเมืองสุนกลางการค้าชายแดนที่สำคัญในมนธนเจียงของจีน
00:21:59ด้วยระยะทางกว่า 2,200 กิโลเมตร
00:22:07ในสมัยโบราณ พ่อค้าวานิจจัดจีนจะนำสินค้ามุ้งหน้ามาที่ Khachgar
00:22:12จากนั้นก็แยกย้ายกันออกเดินทางไปดินแดนต่างๆ
00:22:16บางกลงใต้ไปยังอินเดียร์ หรือข้ามที่ราบสูมฟามีไปปากิศฐาน
00:22:22หรืออฟกานิสฐาน เข้าสู่ตะวันออกกลาง
00:22:29การเดินทางในวันแรกของเราจากเมืองต้นหวาง สู่เมืองหมางไหน
00:22:34ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆ อยู่ติดพรมแดนวนทนชิงหายกับสินเจียง
00:22:43เส้นทางสายนี้จะนำเราข้ามทะเลสาย
00:22:46และทุ่งยากกึ่งทะเลสายที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
00:22:52คนนำทางของเราเล่าให้ฟังว่า
00:22:55psi ทะเลสายแทบนี้ 仍然ได้ฟังท่อกัสธรรมชาต
00:22:59จักแล่งกัสในทะเลสาย
00:23:01เดินท่อไปสู่เมืองใหญ่ใกล้เขียน
00:23:06ในอดีตนั้น มือออกเดินทางจากตุ้นวาง
00:23:09ludic จะต้องผ่านด่านตรวจใบอนุญาตการออกนอกเมืองที่ด่านหลาย
00:23:11หรือที่ด่านประตูหยกอยัวเหมือน
00:23:13เพื่อตรวจราสินค้าต้องห้าม
00:23:15ต่วงตลาสินค้าต้องห้าม
00:23:17และหนึ่งในสินค้าต้องห้ามก็คือ
00:23:20ตัวหนอนไหมนั่นเอง
00:23:22แต่ปัจจุบันหอ Bir�
00:23:23อาคอยweek Samsung 05
00:23:24pastor
00:23:43siempre
00:23:45เห็นมืองใหญ่อยู่ข้างหน้า มืมนี้มีหรือภาษาฯาилось რ vez
00:23:55เป็นความพยายามของรัฐภาลจีนที่จะสร้างถือนฐานให้ชนเพื่อน Guinea ชาวขาซักษ ที่เรรอลเลี้ยงสัตตร์ ได้อยู่เป็นหลักแหล่ง
00:24:03ชอบมืองอักเศส ส่วนใหญ่จึงมีอาชีพเรेยงสัตตร์ ผลิตนม และถbras
00:24:09เหมือนอักเศ vraiดุมใหม่เอี่ยม สะอาดสะอ้าน
00:24:11เราสร้างมาได้เพียงไม่กี่ปีมานี้
00:24:16เราร่อเวลาะ ระดับความสูง ขึ้นไปเรื่อย ๆ
00:24:19จนถึงระดับ 2,000 กว่าเมตร
00:24:21ภูมิประเทศยิ้งเถอะ something but
00:24:22แรก ตามมากเถอะท kaz
00:24:23ก็ยิงดูงดงามมากขึ้นเท่านั้น
00:24:28ทนนตัดกลางท�火藻 สายสายนี้เพิ่งส่างเสร็จ
00:24:31และยังไม่ได้เปิดใช้อย่างเป็นทางการ
00:24:33หรวนทางก็ค่อนข้างไกล
00:24:35จึงไม่ค่อยมีเพื่อนร่วมทางมากนัก
00:24:38นานนับชื่อโมงจะเห็นรอดส่วนมาสัยครั้งหนึ่ง
00:24:43ท�้านกลางเทrick่าสลับซ้อล
00:24:46เรามองเห็นคนขี้มมาต้อนฝูงแก่อยู่บนเนินเขาเกลี่ยกล่าย
00:24:50เขาคงเป็นคนพื้นเมืองเผาใดเผาหนึ่ง
00:24:52ที่เร expans ร่อนอยู่แถบนี้
00:24:54แผ่นดีฬ stimulus ทางตรวันตกนี้ ษนพื้นเมืองอศัยอยู่หลากไฟเบ่าผัน
00:24:59ส่วนใหญ่มีเชื่อสายขอเขชียน ชั้นเดียวกับ ridiculeเอเชียกลาง และอารับ
00:25:06เราหยุดแวะทักทายคนเลี้ยงแกะ ที่ปลุกกระจมอยู่ระหว่างทาง
00:25:11แม่เราเป็นคนแปลาดหน้าที่ผ่านมาก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าของบ้าน
00:25:16ยกเว้นเจ้าตัวใหญ่เสียนหน้าเกรงขังตัวนี้
00:25:20เธอเชื้อเชิญพวกเราให้เข้าไปนั่งพักในกระจม
00:25:33ครับกรวนนี้เป็นชาวผาซัก
00:25:36ทุกๆระดูใบไม้ผลิ
00:25:38จะย้ายออกจากเมืองมาตั้งกระจมเลี้ยงแกะอยู่ทุ่งญ้า
00:25:41และจะย้ายไปเรื่อยๆทุก 3 เดือน
00:25:43เพื่อหาทุ่งญ้าใหม่ให้ฝูงแกะ
00:25:45พอหน้าหนาวก็จะย้ายกลับไปอยู่ในเมือง
00:25:51โชคดีที่คนนำทางของเราเตือนไว้ว่า
00:25:54อยากไปถามจำนวนแกะที่พวกเขาเลี้ยง
00:25:56เพราะพวกเขาถือว่าแกะเป็นทรับสินสำคัญ
00:25:59ที่จะให้คนอื่นล่วงรู้จำนวนไม่ได้อย่างเด็ดขาด
00:26:08โรผ่านทะเลยซายและเนินเขาในภูมิประเทศแปลกตา
00:26:12ที่เปลี่ยนสีซัรย์สู่อีทั้งเท Louis
00:26:15ทาลสายที่มีสภาพเป็นรusiศปลหินกลวด
00:26:36เรียกกันว่าทะเลสายโกบีที่มีส่วนผสมของห๊ยนมากกว่าทะสาย
00:26:40ท่ำกลังทะเลสายห่างไกลความเจริญของเมืองนี้
00:26:54พ่อครูยังมีเนื้อสัตว์ที่เก็บตุ่นแช่แข็งไว้
00:26:57และยังพอหาผักสดมาปรุงอาหารเรียงพวกเราได้ถึง 26 คน
00:27:05ระดับความสูงที่เพิ่มกึ่งเรื่อยๆ จนถึงกว่า 3000 เมตร
00:27:09ออกซิเจนเบาบางลง พวกเราหลายคนเริ่มมีอาการปวดหัว
00:27:16ทะเลสายแถบนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มที่ดูกว้างใกล้สุดสายตา
00:27:25หินรุบร่างประหลาดเหล่านี้เกิดจากการทับถมของทราคประการังจำนวนมหาสาร
00:27:32ในอดีต บริเวณนี้คือท้องทะเลยุคดึกนำบันนั้นเอง
00:27:39เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ หินประการังพวกนี้แข็งและคมมาก
00:27:44ถ้าไม่อดกิดไม่ได้ว่า ถ้าขบุญคาราวันของมาโคโปโลเดินทางผ่านมาแถวนี้
00:27:51ผู้เขาคงต้องหลีกเลี่ยงไปทางอื่นอย่างแน่นอน
00:27:54เพราะไม่มีทางที่จะเดินทางผ่านหินแหลมคมพวกนี้ไปได้
00:27:59ความวดงามอย่างหน้ามหาสจรรย์ของทะเลสายในมนทนชิงหาย
00:28:14ถูกผสมผสารอย่างลงตัว
00:28:19ด้วยลักษณะทางกระยะภาพที่แตกต่างกัน
00:28:22ความวดงามอย่างหน้ามหาสจรรย์ของทะเลสายในมนทนชิงหาย
00:28:26ถูกผสมผสารอย่างลงตัว ด้วยลักษณะทางกระยะภาพที่แตกต่างกัน
00:28:31ความผันผวนของกระแสลมและพยุศาย
00:28:36ได้สร้างงานปฏิมากรรมชิ้นเอกของธรรมชาติ
00:28:39ที่สามารถแปร่เปลี่ยนรูปทรงอยู่ตลอดเวลา ราวกับมีชีวิต
00:29:09ความทุระกันดาล ธรรมชาติที่ถึงแม้จะสวยงาม แต่ก็โขดร้าย
00:29:35เป็นอุปสรรคอย่างใหญ่หลวงสำหรับนักเดินทางในอดีต
00:29:39ด้วยเหตุนี้ ในสมัยราชวงทั้ง จึงได้มีการสร้างสถานีพักกลางทะเลซายเอาไว้ถึง 1639 แห่งตลอดเส้นทาง
00:29:48เพื่อเปลี่ยนม้าหรืออูด เป็นองแรมกลางทาง และสถานที่รับส่งข่าวสาร
00:29:54ซึ่งปัจจุบันในประเทศจีนยังคงมีที่ทำการประสนีที่เป็นองแรมด้วย ตั้งอยู่ในเส้นทางกลางทะเลซายหลายแห่ง
00:30:09แต่ก็ใช่ว่าทะเลซาย ทุรกันดาน จะร้อยประโยชนิดเตือนที่เราผ่านมาถูกสร้างครืนเพื่อรองรับคุณหวังการจัดการสัพยากรธรรมชาติ
00:30:31ได้มีฟาเลซายชื่อร Goddess ท่านหิน น้อมัน หรือแมะแตะทุ่งหญ่าเลี้ยงศัตล
00:30:33ที่คุดพบริเวณทะเลศาพ ยูชา
00:30:49โรคถึงเมืองหมางหงาย
00:30:51มึงที่มีความหมายสมชื่อว่าไกลและสูงกันเกือบสองทุ่ม
00:30:56คืนนี้เราจะพักกันที่นี่
00:30:58การพระจนไภพึ่งจะเริ่มต้นเท่านั้น
00:31:03ที่ลงกันไม่ไม่รู้
00:31:05เราได้รับการบอกกล่าวว่า
00:31:14เส้นทางที่เราจะเดินทางในวันนี้
00:31:18จัดทุระกันดาลและอันตรายมากที่สุด
00:31:22จากมืองหมางหาย
00:31:23มืองสุดท้ายของมนธนชิงไหล
00:31:28คามกระสุกเขตมนธนเชียง
00:31:30ผลทางธริโหทข้ามถึงขาวอานตุ่น
00:31:32แอ่งกระทะใบใหญ่ที่รวมเอาทะเลซายถ้าคลามมากัน
00:31:35ทะเลซายแห่งความตายเอาไว้ด้วย
00:31:37เข้าสู่เมืองโรเชียง ระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร
00:31:52พวกเราทุกคนไม่มีใครรู้ว่า
00:31:54หนทางข้างหน้าจะพระเชิญกับอะไร
00:31:57แม้แต่คนนำทางก็ไม่เคยใช้เส้นทางนี้มาก่อน
00:32:02คนทางเริ่มวิบากมากขึ้น
00:32:04เราถูกร้องขอไม่ให้ถ่ารูปใดใดในบริว Prayne
00:32:08คนนำทางบอกว่าเป็นHE ขวงห้าม
00:32:10เพราะเป็นHE รอยต่อระหว่างสามมนทน
00:32:12คือชิงไ система สู dejar so cross
00:32:17Sarail Giang
00:32:19เผ็ด знакย์ขาวอันตุนมาไม่นานนัก
00:32:22ก็เข้าสู่เหตุ Mod Sh Ren
00:32:25มนทนที่หญ่าที่สุดในประเทศจีน
00:32:28ที่เห็นเป็นกองหิน Dinu pemba
00:32:31เหมืองร่ายใหญ่หินขนาดใหญ่ที่ประเทศจี slips ยังคงทำอยู่
00:32:36ภูนย์พงศี่ขาวของร่ายใหญ่หินที่เกิดจ่ายไปทู่บริเวณ
00:32:40ทำให้เราตัดสินใจรีบเภินทางไปห่างๆ ธัณฮี
00:32:50เราเริ่มเข้าสู่หับขาวในเชื่อขาวอันตุน
00:32:53หังนี้แห้งแล้งแล้วกันดาษน้ำจ компьютеру
00:32:56เราเพื้นดินมีความเป็นดากสูงมาก
00:33:01รอบผ่านทะเลสาพดูมินชา ที่งดงามเรากับภาควาด
00:33:14ความงามทำให้เราต้องแวะลงไปถ่ายรูปอีกเช่นเคย
00:33:19เซ้นสีขาวที่เห็นอยู่รอบฝั่งทะเลสาพก็คือผลึกเกลือจำเนืนมากมาย
00:33:31ก่อกันอยู่เป็นกลุ่มเป็นก้อน
00:33:40แสงให้เห็นว่าน้ำในทะเลสาพดูมินชามิความเข็มจัดมาก
00:33:44แต่ผลึกเกลือเหล่านี้ไม่ใช่เกลือชนิดที่จะนำมาปรุ่มอาหารได้
00:33:52ทะเลสาพน้ำแข็มแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก
00:34:05พวกเราอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเป็นน้ำจืดจะมีประโยชน์กับผู้คนแถบนี้มากมายขนาดไหน
00:34:11พื้นดืนแถบนี้มีความเข็มสูงไม่สามารถทำการเพราะปลุกได้เลย
00:34:15มีแต่พื้นพันบางตระกูลเท่านั้นที่อยู่รอดในสภาพแว่ล้อมเช่นนี้
00:34:19มีพันไม้ทะเลสามากไม้หล้ายชนิด
00:34:23เติบโตในพื้นที่ระหว่างทะเลสาและโอเอซิส
00:34:27ซึ่งจะช่วยรักษาความสรรมดุลของระบบนิเวทในทะเลสา
00:34:38พันไม้เหล่านี้มีลักษณะเด่นเฉพาะตัว
00:34:41ที่ทนตกความแห้งแรง ความเข็ม และความเป็นด่างได้อย่างยอดเยี่ยม
00:34:46พื้นเหล่านี้ขยายพันด้วยเมล็ดที่ปลิวไปตามแรงพยุศาย น้ำหลาก และนก
00:34:54แม้ว่าโอกาสที่จะอย่างรากน้อยเต็มที่ แต่ถ้ามันสามารถลงหลักปักรากได้มือไหร่
00:35:00พยุศายก็ทำอะไรมันไม่ได้ทีเดียว
00:35:03แผ่นดินเริ่มแห้งแรงคือเรื่อย ๆ
00:35:21ขบูรรถต้องวิ่งฝ่าทะเลสายกว้างที่มีตาฝุ่นตลก
00:35:27สลับด้วยผู้เขาซ่ายเรื่องรายตลอดสองข้างทาง
00:35:31ฝ่าความแรงแรงบะเกือบ 100 กิโลเมตร
00:35:42เราก็ได้เห็นลำทานน้ำไซไหลเชี่ยว
00:35:45ที่เกิดจะการละลายของหิมมะบนยอดเขา
00:35:54แต่เรื่องจริงที่เดียวที่ว่า
00:35:56มีน้ำอยู่ที่ไหน ก็มีสิ่งมีชีวิตอยู่ที่นั่น
00:35:59แม้ในหุบข่าวที่แสนกันด่านเช่นนี้
00:36:05บนทางเริ่มวกกลับสู่หุบข่าวอีกครั้ง
00:36:07รถไต่ไปตามสันข่าวคดเคี้ยว
00:36:10วกวนไปมาจนนับโค้งไม่ถ่วน
00:36:19และสิ่งที่เราทุกคนคัดว่าจะต้องเกิดขึ้นสักครั้ง
00:36:22ก็เกิดขึ้นจริงๆ
00:36:29อย่างรถของพวกเราคันหนึ่งแตก
00:36:31เพราะความคมของหิน
00:36:33และความร้อนของพื้นถนน
00:36:36การเปลี่ยนล้อเป็นไปอย่างยากเย็น
00:36:38ขนาดที่ขันน้อดออกมานั้น
00:36:40เราก็ทำน้อดขาดไปถึงสองตัว
00:36:42น้อดนี้ต้องวิ่งต่อไป
00:36:44โดยมีล้อดที่ไม่ค่อยสมโตกอบนั่ง
00:36:46ขนาดที่สภาพถนนกลุกขลาบมากเรื่อยๆ
00:36:48รถขนี้ต้องวิ่งต่อไป โดยมีล้อดที่ไม่ค่อยส่งระกอบนั่ง
00:36:55ขนาดที่สภาพถนนครุบครับมากคือเรื่อยๆ
00:37:02ก็พยายามหาทางออกจะคุดเขา ดูวิ่งไปตามร่องทานน้ำแขนเก่า
00:37:21เส้นทางธรรมชาติที่เกิดกันเพื่อนตัวของทานน้ำแขนเมื่อหลายล้านปีก่อน
00:37:32ขอบวนรถต้องใต่ไปตามสันขาวที่สูงชัน บางช่วงถนนแขบมากจนรถส่วนกันไม่ได้
00:37:43ข้างหนึ่งเป็นหุกเหวลึก คนขับของเราต้องใช้สมาธิเป็นอย่างมาก และรมรวังเป็นอย่างนิ่ง
00:37:57ในหน้าฝน การเดินทางจากมืองมางงาย มโรเชียง จะถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง
00:38:03เพราะร่องทานน้ำแขนเก่าที่เราวิ่งอยู่นี้ จะกลายสภาพเป็นแม่น้ำสายใหญ่
00:38:08ที่ไหลอย่างเชี่ยวกลา ไม่มีใครจะผ่านพบเขาข้ารุโขวดกันนี้ไปได้
00:38:13เทื่อเขาอันตุนดูยิ่งใหญ่และสลับซับซ้อน รถของเราวิ่งขึ้นลงไปตามสันเขา แต่ขึ้นหน้าผา ใส่ลงหุบเขา ค่ามคำนั้นแขนมากมายล้ายต่อหลายช่วง ก็ยังไม่พลเทื่อเขาอันตุน
00:38:33นานซึกจนเรารู้สึกคล้ายกับว่า เรากำลังไม่งวนอยู่ที่เดิม
00:38:48เราวนเมียนอยู่ในเทื่อกเขาอันตุนเกือบทั้งวัน จนในที่สุดก็แต่ระดับขึ้นมาถึงบริเวณที่ราบสูงแห่งหนึ่ง
00:38:53เรารู้ในทันทีว่า เราได้หลุดพนออกมาจากหลุบเขาวงกฎที่แสนหรืโขวดนี้แล้ว
00:38:58จุดที่เรายินอยู่นี้มีสภาพค้ายขอบกระทأ
00:39:06มองไปด้านหนึ่งก็เห็นหุบเหเหวลึกที่เราเพิ่งต่ายขึ้นมา
00:39:09มองไปด้านหน้าทางทิดเหนืagog gonna come back
00:39:18ก็จะเห็นไ 그런ที่ราบต้ำ trekว้างกลัยสุดสายตา
00:39:24แอ่งนี้กินอนาเขตถึง 560 หมื่นต่อรางกิโลเมตร
00:39:29ครับคลุ่มทะเลซายแห่งความตาย
00:39:32หรือทะเลซายถ้าครามมากัน
00:39:33ที่เราจะต้องฝากฟาฝันต่อไปในอีกหลายหวันข้างหน้านี้
00:39:40เพื่อบวนคารวันของเรา
00:39:42เริ่มแต่ระดับลงสู่ขอบกาฐาของแอ่งทาริม
00:39:45ภาหน่อนเริ่มครุกผละมากขึ้น
00:39:48ภูมณ์ภูมณ์ก็เพิ่มสูงขึ้นในทันทีทันใด
00:39:56ที่นี่อากาศร้อนเราอุมาก
00:39:58ภูมณ์ภูมณ์สูงกว่า 40 องศาเซลเซียร์
00:40:01จนเรารู้สึกเหมือนกำลังถูกแผดเผาด้วยไอร้อนจนตัวทาบจะสุข
00:40:05สภาพที่เป็นแอ่งที่ราบตำ
00:40:08ลองรอบด้วยทะเลกรวด หรือทะเลสายโกบี
00:40:11จึงเก็บความร้อนแล้วอย่างดูเยี่ยม
00:40:18ก็เห็นแต่ขอฟ้าจดสายทั้งสิ้น
00:40:28เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่อันตรายที่สุดในความคิดของเรา
00:40:32รถแต่ละคันเริ่มทิ้งระยะห่างกันไปทุกที
00:40:43รอมมาพบรถคันที่สี่ จอดรอความช่วยเหลืออยู่
00:40:46เพราะเปลกแต่ด้วยที่ скวง Gross Belt
00:40:48โดยที่พวกเขาไม่สามารถีต่อใครได้
00:40:50และไม่รู้ว่ายังมีรถโคนไผต่ามาหรือไม่
00:40:52หากต้องติดอยู่ที่นี่
00:40:55อาจไม่รอดเพราะคลิ้นความร้อนเป็นแนะ
00:40:57เราไม่รู้ว่าเราต้องเดินทางท้ำ
00:41:11เราต้องจอดรถหันหน้าเข้าหาลม เพื่อระบายความร้อนเป็นระยะ
00:41:17พวกเรารู้สึกว่า วันนี้เวลามันชั่งยาวนานซิละเกิน
00:41:23สิบชื่อโมงแห่งความทรมาน จากเส้นทางอันแสนทารึน
00:41:29ในที่สุด รถก็เข้าเข็ดถนนลาดยาง เห็นทิวไม้สีเขียวของเข็ดโอเอซิส
00:41:44พวกเราหลายคนทอนให้ใจด้วยความโล่งออก
00:41:51ถนนพาเราเข้าสู่หมู่บ้านชนบทที่ปกคลุ่มด้วยแนวไม้สีเขียว
00:41:56เรากำลังจะถึงเมืองโรเชียงจุดไม้ปลายทางในวันนี้
00:42:05หลังจากที่ผ่านเส้นทางหรืโหดกันมาด้วยความผิวโซ
00:42:08ขอบวนรถของเราเบรกแตกไปหนึ่งคัน
00:42:11ยางแตกไปสองเส้น ระจกหลังร้าวไปหนึ่งคัน
00:42:15ระบบแอเสียไปสองคัน
00:42:17และด้วยแรงกระแท็บที่วัดได้กว่า 15,000 ครั้ง
00:42:21ทำความเสียหาให้กับสัมภาระ และอุปกรณ์บางอย่างประยางไม่น่าเชื่อ
00:42:33โรเชียงเป็นมืองเล็กๆ มืองแรก
00:42:36จากที่เราข้ามเขตเข้ามาในมนทนสินเจียง
00:42:42มืองนี้ตั้งอยู่ในโอเอซิสกลางทะเลซาย
00:42:45จึงมีผู้คนอาศัยอยู่ค่อนข้างเบาบาง
00:42:48เป็นที่น่าสังเกตว่าใบหน้าของผู้คนเริ่มเปลี่ยนไป
00:42:52คนเหล่านี้คือชาวอุยขู ชนพื้นเมืองดั้งเดิม
00:42:56กลุมชนชาติส่วนใหญ่ของมนทนสินเจียง
00:42:59ที่มีมากถึงกว่าเจ็ดล้านคน
00:43:01กระจาอยู่ตามพื้นที่ต่างๆ แถบภาคตะวันตกของประเทศจีน
00:43:12พระหานักของผู้คนในแถบนี้
00:43:14ยังคงใช้ระแท้เทียมลา
00:43:16ในการขนส่งและเดินทาง
00:43:18เหมือนในอดิตที่ผ่านมา
00:43:26และหลาก็เป็นสัตว์เลี้ยงที่ชาวอุยขู ทับทุกบ้านจะต้องมือ
00:43:36โอเอซิสหลาวนี้อุดมสมบุญมาก
00:43:38จนทับไม่น่าเชื่อว่า
00:43:40ดินแดนอันแห้งแล้งกลางทะเลซาย
00:43:42จะมีน้ำใช้อย่างเหลือเฝือ
00:43:44จนสามารถปลุกพื้นผักผลไม้ได้เป็นอย่างดี
00:43:52แต่งโมและแขนตะลุก
00:43:54เป็นผลไม้ที่ขึ้นชือที่สุดของมนทนสินเจียง
00:43:56ที่สามารถขึ้นได้ดีในพื้นที่ที่เป็นสาย
00:43:58แต่รสชาติหวานจนหน้าแปลกใจ
00:44:02และเป็นผลไม้ที่ให้น้ำได้อย่างดี
00:44:04สำหรับผู้คนที่อาศัยกลางภูมิประเทศที่แห้งแล้ง
00:44:12พวกเราเคยสงสัยกันว่า
00:44:14ทำไมผู้คนแถบนี้จึงไม่ค่อยจะอาบน้ำกัน
00:44:16ทั้งที่ตอนกลังวันอากาศร้อนจัดขนาดนั้น
00:44:20แล้วเราก็ได้กำตอบเมื่อเผลอมาอาบน้ำที่นี่
00:44:23เป็นเพราะน้ำเหล่านี้มาจากน้ำใต้ดิน
00:44:26ที่เกิดจากการละลายของฮิมะบนเทื้อเขาอันตุ่น
00:44:30ที่มีความเย็นจัดมาก
00:44:32ขนาดที่ว่าถ้าไม่ผ่านเครื่องทำน้ำร้อนก่อน
00:44:35ไม่มีใครสามารถที่จะทนความเย็นใกล้จุดเยียกแถงของน้ำได้เลย
00:44:41พวกเราออกเดินทางต่อ มุ่งหน้าไปยังเมื่องชิวมู ที่อยู่ห่างออกไปอีก 420 กิโลเมตร
00:44:46ผ่านทะเลสายที่เก็ดงำเรื่องราวของอริยธรรมโบราส
00:44:49ที่ครั้งหนึ่งเคยลุ่่มเดือเอาไว้ใต้พริ้มสายมันนานนับสัตวัตวัตว์
00:44:54ทะเลสายทะครามากันมีความยาวจากที่ตะวันออกไปทางที่ตะวันตกประมาณ 1,000 กิโลเมตร
00:45:09และกว้างประมาณ 400 กิโลเมตร
00:45:12เป็นส่วนหนึ่งของแอ่งทาริมที่มีเทือกเขาคุณหลุนและเทียนชาญขนาบอยู่ทั้งสองข้างนือแนวเนื้อใต้
00:45:19เนื้อนจากถูกขนาบด้วยเทือกเขาสูงชันห่างใกล้จากอิทธิกลของความชื้นจากทะเล
00:45:30จินทำให้ทะครามากันเป็นทะเลสายที่มีความแห้งแรงกันด่านที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
00:45:37อุ้นหภูมิเพื่อนผิวเท่าที่เคยบันทึกไว้ได้สูงถึง 67.2 องศาเซลเซียส
00:45:44และยังมีความแตกต่างกันมากถึง 40 องศาในเวลาเพียง 24 ชั่วโมง
00:45:51ปริมาณเฉลียของน้ำทั้งหมดที่ตกลงในทะเลสายไม่ว่าจะเป็นผล น้ำค้าง ลูกเห็ด
00:46:01รวมกันน้อยกว่า 100 มิลิเมตร และน้อยที่สุดเพียง 4-5 มิลิเมตร เท่านั้น
00:46:08แต่กลับมีอัตราการเกยเฉลี่ยสูงถึง 2500-3400 มิลิเมตร
00:46:16ความแห้งแรงกันด่านของภูมิประเทศและธรรมชาติที่ไม่อาจคาดด่าวได้
00:46:23ทะเลสายทะครามากันได้กลายเป็นพ�้นที่ต้องทามสําหรับชาววิคωที่มักจะกล่าวเตือนพูตคนเขาเอาไว้ว่า
00:46:31เมื่อใหญ่ที่เจ้าเดินทางเข้าไปเจ้าไม่มีวันที่จะได้กลับออกมาอีกเลย
00:46:41กลางทะเลสายทะครามากันจะไม่มีมนุษษ์อาศัยอยู่เลย
00:46:46ด้วยประกฏว่าเมื่อประมาณปี 2538 ได้มีการสำรวจพบชุมชนคนเลี้ยงสัตว์กว่า 200 คน
00:46:53ดำรงชีวิตอยู่อย่างเรียบง่าย ลึกเข้าไปกลางทะเลซายอันร้อนระอุ
00:46:58ไม่เคยติดต่อกับโลกภายนอก อยู่ห่างจากเมืองที่ใกล้ที่สุดด้วยการเดินถึง 10 วัน
00:47:04พวกเราอดกิจไม่ได้ว่า มาโคโปโลและขบวนคารวันของเขา เดินข้ามทะเลซายกันมาได้อย่างไร
00:47:13ในสภาพธรรมชาติที่โหดร้ายเช่นนั้น ทะเลซายยังคงดูเวิร์ว้างอย่างน่ากลัว
00:47:19แม้ว่าเราจะเดินทางมาไกลนับร้อยกิโลเมตร ถนนก็ยังคงหายไปในทะเลซายสุดขอฟ้าอยู่นั่นเอง
00:47:26เวลาผ่านไปอหลายชั่วโมง เราก็ผ่านโอโอเอซิสเ�
00:47:44เล็กให้้ถนนปลุกต้นป๊อปล่าเป็นแนวไปตลอดทาง
00:47:50เป็นแนวกันพยุศัย ที่จะพัดเข้ามาทหลมเมือง
00:47:53ต้นป้าปลาเป็นไม้เนื้ออ่อน ตระกูลเดียวกับต้นป่าปิรัซที่ใช้ทำกระดา筆
00:47:58และฉ terrain แม่กระทั่งทำฟืน
00:48:08ื่อ ลักรรักด์ล Room จะมีเอกลักษ์เฉพาะตัวในเรื่องเครื่องแต่งกาย
00:48:12ขนาดเดียวกันก็จะพิภีพิธันในเรื่องแต่งตัวมาก
00:48:15โดยเฉพาะผู้หญิง ที่นิยมแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีสันสดใส
00:48:19และพวกผ้าสวย แม้จะออกไปทำไร้ก็ตาม
00:48:28พวกเราลดอาการความตื่นกลัวของเด็กๆ ด้วยวิธีการที่ใช้ได้ผลเสมอมา
00:48:33กลับออกสู่ทะเลสาอีกครั้งหนึ่ง อากาศภายนอกเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ
00:48:46สองข้างทางเริ่มมีต้นไม้ทะเลสาขึ้นประปลาย และหนาแน่นขึ้น
00:48:50ถนนข้างหน้าขาด เพราะถูกน้ำหลากพัดหายไป
00:48:58พวกเราเลยต้องหาทางเละลงไปวิ่งข้างล่าง คน blamingทางบอกว่า
00:49:03แถวนี้ในเรื่อดูร้อน จะมีน้ำหลากที่เกิดจากการละลาย
00:49:06ของฮีมะบนเผื่อกเขาคุณหลุนอยู่เสมอ-เสมอ- เพราะค่อนข้างรุ้นแรง
00:49:10เนื่องจากไม่มีต้นไม้ที่จะประทะแรงน้ำไว้เลย
00:49:18ขนาดเดียวกัน ราแสน้ำก็มักจะเปลี่ยนเส้นทางอยู่ตลอดเวลาเหมือนกัน
00:49:22มันจะไหลไปทางไหนก็ได้ที่มันอยากจะไป
00:49:25และขนาดของทานน้ำก็จะขยายออกไปเรื่อยๆ
00:49:28และก็เป็นไปได้ว่า มาคร่าวหน้า
00:49:31ถนนสายนี้อาจจะหายไปแล้วก็ได้
00:49:34ถ้าไม่ใช่เพราะน้ำ ก็อาจเป็นเพราะสาย
00:49:39เป็นเรื่องปกติธรรมดามาก
00:49:41สำหรับถนนในทะเลซาย
00:49:43ที่มักจะถูกภายุซายพัดกลบอยู่ตลอดเวลา
00:49:46จนบาง kr้ăngถนนหายไปทั้งสายเลยก็มี
00:49:50การเดินทางในทะเลสาย มักจะจะอوبศัครกันอยู่เสมอ
00:49:53จึงมีคำพูดในหมูนักเดินทางกลางทะเลสายว่า
00:49:57ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน
00:50:08พ swTA อาหารบ่ายกันที่ร้านอาหารเล็ก Clek ข้างทาง
00:50:12ที่ตั้งอย่างโดเยี่ยอยู่ร้านเดียว
00:50:14จะอย่างับของ Southeast India
00:50:19เจ้าของร้านดีใจ
00:50:20ที่นานหลายวันแล้ว
00:50:22ไม่มีคนผ่านเข้ามาในร้านซักที
00:50:24ก็เลยกูรี กูจอทำบมีสด ๆ
00:50:27พระกอบอาหารให้เราทานอย่างเต็มใจ
00:50:32ความหิวทำให้พวกเราเข้าไปช่วย
00:50:34ก็ทำอาหารด้วย
00:50:36พวกเราหลายคนทนรอไม่ไหว
00:50:38ก็เลยหันเข้าหาอาหารหลักไปตามระเบียว
00:50:44ที่มี 12 นิ้ว อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา อา
00:51:14รถโดยสารคันแรกที่เราเจอในรอบ 3 วันพ่านเราไป
00:51:18ทำให้อดนิดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้ารถพวกเขาเสีย จะทำกันอย่างไร
00:51:248 ชั่วโมงกว่า เราก็มาเข้าเข็ดเมืองชิวมู
00:51:29กลิ่นไอ้วรถนธรรมชาวอุยคุ เริ่มประกฎให้เห็นชาติเจนขึ้น
00:51:33และพวกเขาดูจะเป็นมิดกับคนเดินทางอย่างพวกเรามาก
00:51:37ผ Jelly Bean 에� misunderstood
00:51:40เออกละการเป็นใกลายของชาวอุยคุ เริ่มเห็นเด่นชัดขึ้น
00:51:44ในขณะที่ความเป็นจีน เริ่มเลือนลางลง
00:51:52ผ้าษาคืออุปกศัครสำคัญที่สุดสำหรับพวกเรา
00:51:54ชาวอุยคุ ใช้ภาษาเติร์ก 难 stimulate saying German
00:51:58มีมันยุษา episód Theme
00:52:02แต่เราก็ไม่ลักความหยายามที่จะผูกมิดกับพวกเขา
00:52:06โรพบแผงขายเครื่องเทศที่มีหลากหลายมากมายนับไม่ท่วน
00:52:10ทำให้หวนกิดถึงกันค้าขายในอดีตบนเส้นทางสายนื้อ
00:52:20และถึงแม้จะพูดกันไม่รู้เรื่อง
00:52:23แต่ก็ไม่ยากเกินไปนัก
00:52:24ที่จะสื่อสารกันถึงศรรคุณของสัตว์ทะเลสายพวกนี้
00:52:28ชื่อมูกเป็นเมืองใหม่ขนาดใหญ่
00:52:37สภาพบ้านเรือนสะอาดสะอ้าน
00:52:39รัฐบาลจีนได้ทุ่งทุนพัฒนาเมืองรายทางเหล่านี้
00:52:42เพื่อส่งเสริมการท่องที่อย่าง
00:52:44ที่คาดว่าจะมีมากขึ้นมีอนาคต
00:52:58ขอบคุณสิ
00:53:04อดี สัตว์ที่ตรงสุบวกนี้
00:53:16ทิศาสัตว์ที่สุด hoy
00:53:18ท่าแม้วจากที่สุดคือที่สุด
00:53:20สุดของสัตว์ที่สุด
00:53:23พวกเราดีใจที่ได้พักโรงแรมระดับสีดาว
00:53:43หลังจากที่ทรมานมาเมื่อสองวันก่อน
00:53:46เราเริ่มออกเดินทางต่อในวันรุ่มขึ้น
00:53:57จุดมุ่งหมายในวันนี้คือเมืองมิงเฟย
00:54:00ทนนเริ่มแย่ลงแล้วก็ถึงคร่าวรถของเราบ้าง
00:54:04การเดินทางบนสภาพทนนแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดา
00:54:07และสำคัญมากที่จะต้องตรีบอุปกรณ์ให้พร้อม
00:54:16ขนาดเราเตรียมยางอันไหลมาถึงสองเส้นก็ยังไม่พอ
00:54:29เพราะเพียงระยะทางห่างกันไม่ถึงสิบกิโลเมตร
00:54:32ยางรถของเราแตกถึงสามครั้ง
00:54:34เราต้องใช้ยางของรถที่ตามมาข้างหลัง
00:54:37อุดป่านหลายตัวเดินหาอาหารกินกันอยู่
00:54:54โดยไม่ค่อยจะสนใจพวกเรานัก
00:54:58อุดในทะเลซายถ้าคลามมากัน
00:55:00ตัวเล็กกว่าอุดในทะวิฟแอฟริกา
00:55:02ในรุดพวกน้าหละน่าอุดป่าน
00:55:16หม certainesนึกต้นปรับปลาททเลซาย
00:55:20เพื่อมหัสจรรศ
00:55:22คลัดชนิดกับที่ปลูกอยู่ต่างโอเอซิส
00:55:24หรือหมู่บ้านต่างๆเพื่อกันลง
00:55:27ต้นปับลาทาเลซายเหล่านี้เป็นพืชพันโบราณที่สามารถปรับตัวและดำรงชีวิตอยู่รอดได้เป็นอย่างดี
00:55:36ในพื้นที่แห้งแรงที่มีความเข็มและมีความเป็นด่างสูง
00:55:40มันมีความสามารถในการคายเกลือและด่างออกจากระบบต้นของมันได้ด้วย
00:55:45และนี่คือความรับว่า ทำไมป๊ับล่าทะเลซ่ายจึงเจริญเติบตัวได้ดีในพื้นที่ทะเลซ่ายถ้าคลามมากัน
00:56:02มะเล็กของป๊ับล่าทะเลซ่าย ยังมีวิธีกระจายผันของมันเองได้
00:56:07โดยจะอาศัยจังหวะในช่วงน้ำหลาก ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่มะเล็กแก่จัดพอดี
00:56:12กระจายผันของมันลอยตามน้ำไปอย่างที่ต่าง ๆ
00:56:15เมือระดูแรงมาถึง แต่สภาพแวะล้อมพอเหมาะ
00:56:18มันก็จะแถงยอดขึ้นทะลูพื้นผิว แถงรากลึกลงไปในพื้นซ่าย
00:56:23และขยายพอพันธ์ของมันต่อไปได้
00:56:28จากการกุดค้นพบซากเมืองโบราณกลางทะเลซ่ายทะคลามกันหลายแห่ง
00:56:33ที่มีอายุกกว่า 1,000 ปี
00:56:35ได้พบว่า ต้นปับลาทะเลซ่ายจำนวนมาก ที่อยู่ในยุกสมัยนั้นยังไม่ตาย
00:56:41มีคนเคยกล่าไว้ว่า ต้นปับลาทะเลซ่ายเป็นต้นไม้ที่ไม่มีวันตาย
00:56:46แม้เวลาจะผ่านมานานนับพันปี มันก็ยังไม่ตาย
00:56:50และถึงแม้มันจะตาย ต้นมันก็จะไม่ล้ม มันยังคงยินต้นอยู่อย่างนั้น
00:56:56และถึงแม้ว่าจะมีอะไรมาทําให้มันล้ม
00:56:59มันก็จะไม่มีวันผุ
00:57:12พวกเราแว้ทานอาหารที่เตรียมมาที่เมืองแอนเดรีย
00:57:15อดีตเมืองโบราณบนเส้นทางสายไหม
00:57:18ซึ่งตอนนี้เห็นเป็นบ้านเพียงส้องถึงสามหลังเท่านั้น
00:57:21ช่าวอุยขูมีอัทยาใสใจคอกับอาคารตุกกะต่างถิ่นเป็นอย่างดี
00:57:25ไม่ว่าจะไปไหน
00:57:27ก็จะพยายามที่จะคุยกับพวกเราอยู่เสมือ
00:57:40คนนําทานแจ้งระว่า
00:57:41ต้องรีบเดินทางต่อเพื่อให้ถึงมิงเฟยก่อนมึด
00:57:45เพราะกําลังจะเกิดพายุทะเลสาย
00:57:47และจะลำบากและอันตรายมาก
00:57:49ถ้าเดินทางตอนกลังคืน
00:57:55ทะเลสายทะครามกันในหนึ่งปี
00:57:58จะมีช่วงที่เกิดพายุทะเลสายนานถึงสีเดือน
00:58:01อากาศที่เริ่มขมุคขมัว
00:58:04มันเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น
00:58:05ยิ่งใกล้มึงมิงเฟย
00:58:07ภาพของทะเลสายแห้งแรง
00:58:09เริ่มเปลี่ยมเป็นสีเขียว
00:58:11เริ่มเห็นฟูงประสุสัตว์เพิ่มมากเรื่อยๆ
00:58:13ซึ่งในแอ่งทาริม
00:58:15มีการเลี้ยงสัตว์กันอยู่เพียงสามชนิด
00:58:17คือลา แกะ และแพะ
00:58:19แล้วเราก็มาถึงเมืองมิงเฟย
00:58:35เมืองเล็กๆทางผ่านไปเมืองเทอถียนตอนไกรคำ
00:58:39ซึ่งกำลังอยู่ในระหว่างการเยินของพายุทะเลสาย
00:58:43เมืองทั้งเมืองเลยเต็นไปด้วยฝุน
00:58:45เหมือนข้างเหมือน เลยเต็นไปด้วยฝุ่น
00:59:06ในปีหนึ่งปีหนึ่ง มืองมิ่งเฟอร์จะเจอกับพยุศัยหลายครั้งหลายหล
00:59:11หนักบ้างเบาบ้างไปตามธรรมชาติ
00:59:14ผู้คนเลยดำเดินชีวิตกันไปตามปกติ เหมือนเป็นเพียงเหมาะยามเย็น
00:59:21ชาวเมืองมิ่งเฟอร์บอกอย่างติดตลกว่า ถ้าไม่กว่าสายทิ้งสะบ้าง ข่งทั่วเมืองไปแล้ว
00:59:37อนุภาพของพยุศที่เกิดขึ้นในทะเลสายทะครามากัน
00:59:40ไม่ใช่เรื่องล้อกันเล่น ๆ เคยมีเรื่องเล่าว่า มีอนาจากโบราณแห่งหนึ่งชื่อว่า
00:59:46เหลวหลาน ถูกพยุธะเลสายพัดกลบหายไปทั้งเมือง
00:59:50ไม่ลงเหลือสิ่งมีชีวิตอยู่เลยเพียงชั่วคืนเดียว
00:59:53จนกระทั่งมีคนไปขุดพบสร้างเมืองถูกฟังอยู่ใต้พื้นสาย
00:59:57มือตนสัตวัทที่ 20 นี้เอง
00:59:59และหลังจากนั้นก็มีการขุดพบอรายธรรมใต้พื้นสาย
01:00:03เพิ่มคือเรื่อย ๆ อย่างไม่น่าเชื่อว่าจะมี
01:00:05อรายธรรมที่จะเรื่อยรุ่ง ๆ เกิดขึ้นกลางทะเลสายแห่งความตาย
01:00:09มาก่อนนานนักร้อยปี
01:00:19หนึ่งในจำนวนนั้นคือเมืองนี่ย้า
01:00:21เมืองโบราณขนาดใหญ่
01:00:23ที่ได้รับการดูแลอย่อย่างดีที่สุดในมนทนซิมเจียง
01:00:27หลังจากการค้นพบเมื่อปี 2444
01:00:29ลึกเข้าไปในเทลสายกว่า 100 กิโลเมตร
01:00:33จากเมืองมิงเฟิย
01:00:35นี่ย้าเคยเป็นจุดตัดท่างวัฒนธรรมระหว่างตะวันออกกับตะวันตก
01:00:37บวนเส้นทางสายไหมสายใต้
01:00:39มีความกว้างกว่า 7 กิโลเมตร
01:00:41และยากว่า 30 กิโลเมตร
01:00:43หลังจากการรู้มือการระหว่างรัฐบาลจีน
01:00:45และรัฐบาลญี่ปุ่น
01:00:47ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
01:00:49ได้มีการคุดค้นพบราณวัฒุ
01:00:51ทางวัฒนธรรมเป็นจำนวนมาก
01:00:53ความลึกลับแห่งอนาจักษณีย้า
01:00:55เริ่มเปิดเผยขึ้นที่ละเล็กที่ละน้อย
01:00:59นึงในสิ่งที่สำคัญที่สุด
01:01:01นึงในสิ่งที่สำคัญที่สุด
01:01:17คือการค้นพบในสุสรรมใหม่เลขหนึ่ง
01:01:21ในปี 2538
01:01:23คือหลุมสบ 8 หลุม
01:01:25ของคนที่มีฐานาชนชั้นสูงทางสังคม
01:01:27และสิ่งของต่าง ๆ จำนวนมาก
01:01:29จำพวกเครื่องป้านดินเผา ภาชนะที่ทำด้วยไม้
01:01:36เครื่องเหล็กเครื่องถม ลูกถนูและคันถนู
01:01:44ลูกปัดและผ้า
01:01:50และที่ถือเป็นสิ่งของที่ลำค่าที่สุดคือ ผ้าไหมสีสันสดใส และผ้าขนสัตว์ที่ออกแบบอย่างมิจิตพิศสดาน
01:02:01ผ้าไหมยกดอกสีทองปักภาษาจีนที่ไม่เคยพบที่ไหนมาก่อน แสดงให้เห็นอรยธรรมชั้นสูงของชาวนิย้า
01:02:16ในบันทึกของชาวคั่น มืองนิย้าถูกระบุว่าคืออนาจักรจริงจุย
01:02:21ซึ่งเคยถูกปกรองโดยราชวงเว และราชวงจิน
01:02:25และเนื่องจากอนาจักรจริงจุย เป็นทางผ่านของเส้นทางสายไหมสายใต้
01:02:29จึงทำให้บราณวัฒุที่ถูกค้นพบ มีทางรูปแบบที่มีลักษณะเด่นของวัฒนธรรมท้องถิ่น
01:02:35และรูปแบบที่ได้รับอิทธิพล์จากภายนอก
01:02:38สิ่งของเหล่านี้ได้กลายเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญในการค้นคว้าประวัติ
01:02:42ของดินแดนทางภาคตะวันตกของจีน บนเส้นทางสายไหม
01:02:46และการแรกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ระหว่างตะวันตกกับตะวันออก
01:02:58วันรุ่มขึ้น เราเดินทางต่อไปยังเงิมเห้อเถียน
01:03:01ซึ่งอยู่ห่างออกไปอีกราว 300 กิโลเมตร
01:03:04อากาศยังไม่ดีขึ้น
01:03:06เป็นครั้งแรกที่พวกเราได้สัมผัสถึงพลานุภาพของพยุศัย
01:03:10มันเคลื่อนที่ประดุดดังมีชีวิต
01:03:13ถาถมเข้าใส่ทุกสิ่งที่ขวางหน้ายังไม่ปราณี
01:03:16และไม่มีใครหยุดยั้งมันได้
01:03:19สิ่งเหล่านี้คงจะเป็นเรื่องธรรมดาของพวกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองกลางทะเลสายเช่นนี้
01:03:24แต่สำหรับพวกเราแล้ว
01:03:26มันรู้สึกวังเวงอย่างบอกไม่ถูก
01:03:30พยุธาพยุทะเลสายยังไม่มีถีเท่าว่าจัดสงบลง
01:03:37ทำให้การขับรถเป็นไปด้วยความยากลำบาก
01:03:41บางช่วงแทบมองไม่เห็นถนน
01:03:43พวกเราได้แต่ภาวนาว่า ขออย่าให้มันแรงกว่านี้เลย
01:03:55โชคเข้าข้างเรา สักพักพยุทะเลสายก็หายไป
01:04:04โรพบคนเดินทางนับอุติขายในเมืองมิงเฟย
01:04:07เขาคงต้องเดินฝากพยุเข้าไปเป็นแน่
01:04:10ขนทางก็อีกยาวไกล
01:04:12เราเลยให้น้ำเข้าติดตัวไปด้วย
01:04:22ถนนที่พาดผ่านในทะเลสาย
01:04:24มักจะถูกพยุธาพยุทะเลสายทำความเสียหายให้อยู่เสมอ
01:04:30ขนซ้อมทางเลยมีงานให้ทำอยู่ตลอดเวลา
01:04:33ที่มีความพยายามจะแก้ปัญหาสายกลบถนน
01:04:35จากการวิจัยพบว่า
01:04:37ต้นวิลโลซึ่งเป็นพราการดักสายได้เป็นอย่างดี
01:04:39ในปัจจุบันจึงเริ่มมีการปลุบเพื่อชนิดนี้ตลอดแนวถนน
01:04:41ที่อยู่ในทิตทางของลมทะเลสาย
01:04:43โดยหวังว่าจะสามารถดักสายเอาไวได้บ้างบางส่วน
01:04:45เพื่อยือว่าถนนรอดพ้นท์พ้นร
01:05:07อิธินทิที่แถวนี้ต่างจากเมื่อสามวันก่อน
01:05:09พวกเราสังเกตเข้าว่าเริ่มมีเพื่อนที่สี่เขียวมากขึ้น อย่าทุกคนก็เริ่มหนาแน่นขึ้น
01:05:17รุดร้านหน้าตา และเครื่องต่างกายของผู้คนสองข้างทาง ทำให้เราทราบว่า เราเข้ากล้ใจชายแดนตะวันตกมากขึ้นที่ถี่
01:05:26มนธนสิดเจียง โบย์ที่จินเลือกว่า
01:05:43อุ fresen gein
01:05:53มนธนสินเจียง
01:05:55ด้วยมีชนชาติอุีคูอยู่มากที่สุด ถึงกว่า 7 ล้านคน
01:06:03บินพระผุรุษของชาวอุีคู คือชนเผาเร่ร่อน
01:06:06ที่เคยดันทางไปมาอยู่ทางตอนเนื้อของประเทศจีน
01:06:09เมื่อประมาณ 300 ปีก่อนคลิสตรการ
01:06:12กว่า 90% ของชาวอุีคู อาศัยอยู่ในแอ่งทาริม
01:06:16หรือทาริมเบซิ้น ทางที่ใต้ของเทือกเขาเทียนชาน
01:06:20ไปกับเส้นพลา nic สายไหม
01:06:23ในสมัยโนโรน ชาวอิคู และชาวฮั่น
01:06:26ได้ติดต่อธรรมาค้าขายกันมาเป็นเวลานาน
01:06:29ทั้งสองชนชาติได้เรียนรู้ซึ่งกันและกัน
01:06:31ทำงานร่วมกันเพื่อความเป็นหนึ่งเดียวของชาติมานาน הרายสตวัฒ
01:06:35จนสามารถอยู่กันได้อย่างผสมกลมกลืน
01:06:40นับว่ามีอกลักว่าที่สุดในบรรดาชนชาติต่างๆ
01:06:44โดย pare фотограф transitionGB ที่นายมสวมภาพพบคุณสวดใส
01:06:51พวกเขาเป็นกลุ่มชนที่รักซะโงบ
01:06:53ดำรงชีวิทอย่างเรียบง่าย
01:06:55และเป็นมิจ Whoops ๆ คนต่างถิ้น อย่างพวกเรา especialmente
01:06:58ตลอดเวลา 5 วันที่เข้ามาอยู่ในเขตของมทนสิ่งเจี่ยง
01:07:03โรงคนพบว่า sigawspies และ sónชาวuan sembances
01:07:06จะชอบให้คนถ่ายรูปเป็นพิเศษ
01:07:08ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
01:07:10ถ้าเห็นกล้อง
01:07:11พวกเธอจะเข้ามาให้เราถ่าย
01:07:13และยินย้นอย่างเต็นแจ่งทุกครั้ง
01:07:18ที่เห็นต้องเป็นก Hoover Razun
01:07:19อยู่นี้คือแป้งปิ้ง
01:07:20ที่เรียกกันว่านาน
01:07:22อาหารหลักของชาวอีคุ
01:07:24ที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราน
01:07:27นานเป็นอาหารที่เก็บว้าได้นาน
01:07:30เหมาะสำหรับการเดินทางไกล
01:07:32ในสมัยก่อนคนเดินทางอยู่รอดในทะเลซายได้
01:07:35เพราะแป้งปิ้งชนิดนี้
01:07:37ซึ่งรสชาติไม่เร็วทีเดียว
01:07:42เย็นวันนั้น พวกเราก็เดินทางมาถึงเมืองเฮอเทียน
01:07:45เป็นเมืองใหญ่ที่สุดเท่าที่เราผ่านมา
01:07:49เมืองเฮอเทียน เป็นหนึ่งในสุนกลางของพุทธศาสนา
01:07:52ในยุคแรก ๆ ของภาคตะวันตก
01:07:54เป็นเหมืองที่มาโควโปโลกล่าวไว้ในบันเทศของเขาว่า
01:07:57มังขัง และอุดมสมบูรณ์ที่สุดในยุคนั้น
01:08:07เฮ้อเทียนตั้งอยู่บน OSS ที่เขียวชอุ่ม
01:08:10เป็นแหล่งกำเนิดของพลไม้นาน่า ๆ ชนิด
01:08:12โดยเฉพาะอังหุ่นที่ปลุกกันมากที่สุด
01:08:15ทุกครอบครัวจะมีศ monsieur ตัilizรกบาลนี้
01:08:18กล่าวกันว่าท่านนำร้านอ่งหุ่นที่ปลุกในเฮ้อเทียน
01:08:22มาต่อกันจะมีความยาวมากถึง 750 กิโลเมตรที่เดียว
01:08:29เฮ้อเทียนมีชื่อเสียงร่วนการเลี้ยงไหม
01:08:30แถมิมาเล่นเทลาช้านาน
01:08:32พ้าะมมเทียงที่มีชื่อเสียงที่สุดเรียกว่า
01:08:36เอาเตอไหล่ ที่มีล่วดราย และสีสันไปดระลักษ์ร lightweight สวยงาม
01:08:42และนี่เองที่ทำให้ HER-FOADE erуетiyan เป็นสูอดกลางแห่งผ้าใหม้ในเส้นทางซ้ายไหมในอดีต
01:08:48จนกลายเป็นเชื่อที่เรียกขานการติดปากว่า
01:08:51ผ้าไม HER-FOADE EAN
01:08:53ซึ่งเป็นหนึ่งในทรัพ fluid ฝรรมทรุปที่มีค่า 3 อย่างของ HER-FOADE
01:08:56คือผ้าใหม้ หยก และพรม
01:08:59เฮ้อเทียนขึ้นแหลงกำเนิดของพรมสินเจียงที่มีชื่อเสียง
01:09:07ในสมัยนั้น พรมสินเจียงได้เดินทางผ่านเส้นทางสายไหม
01:09:11เข้าไปในจีนตอนกลาง และผ่านพรมแดนตะวันตก
01:09:14เข้าสู่เอเซียกลาง จนถึงทะเลเมริเตอร์เรเนียน
01:09:23ลวดลายที่เป็นเอกลักษ์
01:09:25เป็นผลิตผลที่ผสมประสานกัน ระหว่างวัฒนธรรมตะวันตก
01:09:29และตะวันออก ที่เกิดเกิดในช่วง 2,000 ปีก่อน
01:09:33เช่าเฮอเทียนบอกว่า เห็ดผลที่ทำให้พรมของพวกเขามีชื่อเสียง
01:09:37ก็คือ ขนสัตว์เพื่อนเมืองของที่นี่มีความยืดหยุด
01:09:41เป็นมันและเป็นปุ่ย ให้สัมผัสถึงความอ่อนนุ่มได้อย่างวิเศษ
01:09:47ปัจจุบันความสวยงามของพรมสินเกี่ยงที่เหอเทียน
01:09:51ยังคงเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญ
01:09:54เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในตะวันตกและตะวันออก
01:09:58ทุกวันนี้ พรมยังคงทำหน้าที่สื่อสารระหว่าง 2 วัฒนธรรม
01:10:02ออกมาในรูปของงานภาฐกรรมที่มีเอกลักของชาวเหอเทียน
01:10:07วันรุ่มขึ้น เรามุ่งหน้าต่อไปสู่เมืองคัชก้า จุดไม้ปลายทางของการเดินทางในครั้งนี้
01:10:23พวกเราหลายคนสื่มเต้นยังบอกไม่ถูก ที่จะได้มีโอกาสย้อนรอยกลับเข้าไปสู่อดีตอันรึงรองของเส้นทางสายไหมในครั้งนี้
01:10:37โรผ่านมืงหิงจีสา ที่มีชื่อเสียงในธนะเป็นเมืองผลิตกริษที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน
01:10:44กริษยิงจีสา เป็นหัฐกรรมที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสัญและฝรีมือที่ภิธีพิษัลของชาวอุคุ
01:10:52กริษแต่ละเล่มจะมีลวดไลน์อันวิจิตพิษัดาน ตามแต่จิตนาการณ์ของผู้ธรรม
01:10:58กลิษของยิ่งจีซา ถูกส่งไปขายทั่วประเทศจีน
01:11:02และไปไกลถึงดื่นแดนตะวันตก
01:11:04ที่นี่มีกลิษให้เลือกอย่างมากมายจนลายตาไปหมด
01:11:11คนขับรถของเราก็ซื้อกลับไปเป็นของที่ละลึกเหมือนกัน
01:11:17ยิ่งใกล้เหมือนคาชก้า ผู้คนก็มากขึ้น
01:11:23ถนนในช่วงนี้ราดยางอย่างดี
01:11:26การติดต่อไปมาระหว่างเมืองในปัจจุบัน
01:11:29รถประจำทางเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญ
01:11:32ถึงแม้จะมีน้อยอยู่มาก แต่ก็ยังดีกว่านั่งระแทะเข้าเมือง
01:11:40หนุ่มสาวคู่นี้รอรถประจำทางมาตั้งแต่เช้า
01:11:43กว่าสองชั่วโมงแล้ว รถก็ยังไม่มา
01:11:47เป็นว่าปกษิธรรมดาของผู้คนแถวนี้
01:11:50สำหรับการรอคอยอันยาวนาน
01:11:54แม้ว่าบางครั้ง รถก็ไม่ยอมจอด
01:12:06พวกเขาก็ต้องคอยกันต่อไป
01:12:12เคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่า เวลาไม่มีความหมายในทะเลสาย
01:12:19เราเห็นคนกำลังทำอะไรบางอย่าง อยู่ท่ำกลางทะเลสายอันเวิ้งว้าง
01:12:25ดูเหมือนว่า เขากำลังคุดสายเพื่อหาก้อนหิน
01:12:35เราพยายามจะถามเขาว่ากำลังหาอะไรอยู่
01:12:41และ โลก
01:12:45โทษ
01:12:48ชายคนนี้หยิบก้อนหินให้พวกเราดูบังอย่างที่อยู่ในนั้น และบอกให้เราชิมดู
01:13:00เกลือนั่นเอง เขากำลังคุดหาเกลือที่สร้างอยู่ในเนื้อหิน
01:13:05เกลือนั่นเอง เขากำลังคุดหาเกลือที่สร้างอยู่ในเนื้อหิน
01:13:08เมื่อหลายหมื่นปี ดินแดนแถบนี้เคยเป็นมหาสมุตรมาก่อน
01:13:23จึงมีทรับในดินที่ให้พวกเขาสแวงหาได้อย่างไม่มีวันจบสิ้น
01:13:26ตราบเท่าที่เขายังคงมิดความเพียงพยายามและอดทน
01:13:42ในที่สุดเราก็ถึงเมื่องคาชก้า
01:13:45เมื่องอดีตอันเรืองรองเมื่องหนึ่งบนเส้นทางสายไหม
01:13:48บคเมื่องมืองชายแดนทางการฆ์ที่สำคัญเหมือนในอดี มีการสร้างตัวเมืองขึ้นมาใหม่
01:14:03มียานธุรกิจการฆ์ค้าที่ทันสมัย เพื่อรองรับความเจริญทางด้านเศรษฐกิจในอนากฏ
01:14:11คัชกาเคยเป็นเมืองสำคัญในประวัติศาสตร์กันฆ้าขายด้านตาวันตกของจีม
01:14:17เป็นจุดบรรจบของเส้นทางสายไหม สายเหนือและสายใต้
01:14:21ถือว่าเป็นเมืองแห่งแรกของสินเจียงต่อนใต้
01:14:31ที่นี่เป็นสุนกลางการกระจายสินค้าเมื่อกว่า 2,000 ปีก่อน
01:14:35ก่อนที่คาราวารอูดปันทุกสินค้าจะเดินทางต่อไปยังเอเซียกลางและทวีพิวโรค
01:14:41เป็นจุดสำคัญที่มีส่วนสนับสนุนการเลื่อนหลายทางวัฒนธรรม
01:14:49ระหว่างตะวันตกกับตะวันออก
01:14:55ราชากรเสร็จใหญ่ของคาชก้าก็คือชาวิคุ
01:14:59ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่ที่นี่กว่า 2,000 คน
01:15:02นับแต่อดีตการมาจนถึงทุกวันนี้
01:15:05คาชก้าไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก
01:15:08ถึงแม้จะมีความเจริญเข้ามามาก
01:15:10แต่กระนั้นรู้แบบการดำรงชีวิต แนวคิด วัฒนธรรม
01:15:14ความเชื่อและทัศนกติของชาวอิคุ
01:15:17ก็เป็นเหมือนแนวกำแผงที่แข็งแกร่ง
01:15:20ที่สามารถต้องการการล่มสลายทางวัฒนธรรมของพวกเขาได้เป็นอย่างดี
01:15:24โดยเฉพาะในเขตเมืองเก่า
01:15:26คัสชกาเปรียบได้กับเป็นเมืองลวงทังวัฒนธรรมของชาวอีกขู
01:15:38และชาวอีกขูที่นี่ก็เป็นแบบฉบับแท้... แท้.. ของชาวอีกขูในมนทลสินเจียง
01:15:45มีคนเคยกลาวว่า คัสชกาเปรียบเสมือนฟอสซิล
01:15:48ที่มีชีวิตใน貨 reconnaître Metaludius ของสินเจียง
01:15:50คํากล่านี้ดูจะไม่ผิดเผียนัก
01:15:53คาชก้าเป็นหนึ่ง Oasis ที่ใหญ่ที่สุดในเอเซียกลาง
01:16:01ตั้งหรือทางตะวันออกของที่ราบสูงปามี
01:16:04เคยเป็นมืมหลวงเก่าทางอนาจักรชูเล
01:16:08มีหลักฐานว่าพุตรษัตรษัตรษณาได้เข้ามาในคาชก้าราวต้นสัตวัสที่สอง
01:16:12และถูกสนิฐานว่า เป็นอาณาจักภูตรแห่งแรกในทาริมเบสิน
01:16:17และว่ากษัทแห่งอาณาจักภูตรชูเลในยุคแรกแรก นับถือสัสนาภูตรนี้กายหินนยาน
01:16:25สัสนาภูตรอยู่ในคัชกาดนานถึง 900 ปี ก่อนที่สัสนาอิสลามจะเข้ามาแทนที่ในสัตวัสที่ 10
01:16:32จากนั้นมาวัฒนธรรมอิสลามจึงมีอิทธิพลต่อวิวัฒนาการทางประวัติศัทของสินจียงเป็นอย่างมาก
01:16:40ทั้งทางด้านประเภณี ความเชื่อ และสถาปฏิยกรรม
01:16:53สิ่งตกทอดทางวัฒนธรรมเหล่านี้ยังคงหลงเหลือให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน
01:17:02สูสารอัปปาโฮจา สร้างในสัตวัสที่ 17
01:17:08ตัวอาคารหลังคายอดโดมสูงถึง 20 เมตร
01:17:11แสดงให้เห็นถึงสถาปฏิยกรรมอิสลามได้อย่างเด่นชัด
01:17:14ที่นี่เป็นที่เก็บสบของอัปปาโฮจา
01:17:17ผู้นำทางศัสนาอิสลาม
01:17:19ที่เคยกรองนักคอนขาชก้าในสัตวัสที่ 17
01:17:22และผู้สืบสกุลของเขาอีก 72 คน
01:17:25ทุกเช้าวันอาทิศ ผู้ควรจับที่ทุกสราธิตนักพันนักหมื่นคน
01:17:31จะพากกันเดินทางมุ่งหน้ามายังสถานที่
01:17:33ที่เรียกว่าประตูตวันออกในเมื่องคาชก้า
01:17:36ซึ่งเป็นตลาดนัดวันอาทิศที่ใหญ่ที่สุดในมุลทนสินเจียง
01:17:40พวกเขาจะขนสินค้าบันทุกภาหนะทุกชนิดเดินทางเข้ามาที่นี่
01:17:47จนทำให้การจรจรติบขัดที่เดียว
01:17:51ยิ่งสายคนก็ยิ่งแน่น
01:17:54และแล้วหากจำลองการค้าขายโบราณบนเส้นทางสายใหม่ก็เริ่มขึ้น
01:18:09กับจับจับจับจับ
01:18:12กับจับจับ
01:18:14กับจับจับจับทุกุภาสเก้น
01:18:36ประหลัดนัดแถ่งนี้มีมานานนักเฟ้ยร้อยปีมาแล้ว
01:18:40ตลาดนัดแห่งนี้มีมานานนัก rondร้อยปีมาแล้ว
01:18:44เป็นที่รวมของสรินค้าทุกชนิดที่อยู่ในดินแดนแหottleนี้
01:18:48ทางสรินค้าจากตะวันตก และตะวันออก
01:19:00คัชก้าจะคืนว่าเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด
01:19:03และเป็นหนึ่งในพื้นที่เกษตรกรรรมหลักของบนทนสินเกี่ยง
01:19:07ในการผลิตฝ้าย ข้าว ข้าวสาหลี ข้าวโพท ถั่ว และผลไม้
01:19:18ผลไม้ที่มีผู้คนซื้อมากที่สุดคือ
01:19:21ลูกเมื่อดใส่เหลืองสด ของโปรดของคนที่มี
01:19:25นกเหมือจากแต่งโม แขนตะลูก และอังมิ
01:19:33มักโปรโลได้เขียนไว้ในบรรถของเขาในสัตวัสที่ 13 ว่า
01:19:38คาชก้ามีส่วนผลไม้ที่ดีมาก มีส่วนอังหุ่น และที่ดินที่อุดมสมบูรณ์
01:19:45สิ่งเหล่านั้นยังคงประกฏให้เห็นในทุกวันนี้
01:19:53วันนี้เส้นทางสายใหม่ได้ฝื้นกลืนมาอีกครั้งหนึ่ง
01:19:57ด้วยการเปิดเส้นทางสายจีนปากีสถานไฮเว่
01:20:00เพื่อเชื่อเชื่อการค้าระหวังยุโรปและเอเซียกเข้าด้วยกัน
01:20:05คาชก้ามืองที่เคยถูกลืมหายไปในหน้าประวัติศาตินานหลายสัตวัส
01:20:14แต่เริ่มก้าวก็สู่ยุคใหม่ที่รัฐบาลจีนหวังว่าจะเป็นมืองสุนกลางทางสรรฐฐิตที่สำคัญ
01:20:20ในภาพระวันตกของจีนในอนาคต
01:20:23ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่เรารอนแรมย้อนรอยการเดินทางตามบันทึกของมาโคโปโล
01:20:38เราได้เรื่องรู้อะไรมากมายที่ไหลผ่านเข้ามาในความคิดของพวกเรา
01:20:43ทิวทัสอันงดงาม สภาพภูมิประเทศอันแสนทุรกันดาล
01:20:51ชีวิตสุขสงบของผู้คนชนเผ่าวิคุ
01:20:58ความผดร้ายของธรรมชาติไม่ได้เป็นอุปสัครในการดำรงชีวิตของพวกเขาเลย
01:21:05พวกเขาไม่เคยกล่าโทษต่อความแห้งแรงของธรรมชาติไม่เคยระย่อท้าแท้ในโชคชะตาของต่อเอง
01:21:13แต่กลับยืนหยัดต่อสู้ จนสามารถเอาชนะทุกสิ่งทุกอย่าง และอยู่กับมันได้ในที่สุด
01:21:21พวกเขายังคงดำรงชีวิตยังมีความสุข ดำรงไว้ซึ่งวั 92 วัฒนธรรมอันแข็งแกรงและเหนี่ยวแน่น
01:21:29และจะเป็นเช่นนี้ประอีกตราบนานเท่านาน
01:21:33พระสบการณ์ที่ได้สัมผัสถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาอันสั้น
01:21:38แต่ก็ทำให้เราค้นพบสัจธรรมที่แท้จริง
01:21:42ธรรมชาติยิ่งขดร้ายทารุนเท่าใด
01:21:48มนุษยิ่งต่อสู้ติ้นรนเพื่อให้มีชีวิตรอดเท่านั้น
01:21:54การพลาดติยิงของเท่านั้น
01:22:08สิวิตรดเก่า ที่สิ่งที่เท่านั้น
01:22:14ตัวเวลา
01:22:44ที่นี่นี่

Recommended