Skip to playerSkip to main content
  • 2 weeks ago
ทฤษฏีการย้อนเวลาหรือการข้ามเวลาไปอนาคต ที่เราเห็นกันในภาพยนตร์หลายๆเรื่อง จะสามารถเกิดขึ้นจริงได้ไหม แนวคิดอะไรเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้สร้างภาพยนตร์กันแน่ มาร่วมหาคำตอบกันได้ในอีพีนี้

Category

📚
Learning
Transcript
00:00การเดินทางข้ามเวลาถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สร้างความสนุกสนานนำไปสู่พอตเรื่องที่หลากหลาย
00:19น่าตื่นเต้นและทำให้ภาพยนมีความสร้างสารเช่นเรื่องต่างๆที่ไม่ได้แค่ไล่จากอดีตมายังปัจจุบัน
00:26หรือปัจจุบันไปอย่างอนาคตทำให้ตัว Serve ว่าคลในภาพยนมีสร้างสร้างการจริงใจที่ส่งผลต่อเส้นเรื่องหลักได้อย่างแยบยน
00:34แต่ในโลกคนความเป็นจริง แล้วการย้อนเวลาเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่
00:39หรือเป็นล่ะภาพยนมีอาจจะเกิดขึ้นจริง
00:42ที่สุดีทางวิทยาศาลไหนนะคะ
00:44ที่อนุญาตให้การเดินทางค่าเวลาเป็นไปได้
00:47เดี๋ยววิดด้อมตอนนี้
00:48พาทุกคนมาเปิดโลกแห่งการเดินทางค่าเวลา
00:51ในภาพยนต์กันค่ะ
01:12จำเป็นต่อธุรกิจมากกว่า 70 ตัว
01:14ครอบคลุมการใช้งานตั้งแต่การเงิน การขายเว็บไซต์
01:18การจัดส่งสินค้า
01:19การบริหารพนังงานการตันลาด
01:21การให้บริการประยนถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
01:24และที่เจ๋งกว่าก็คือ
01:26ทุกแอปทำงานเชื่อมต่อกัน
01:29ช่วยประหยัติเวลาที่เป็นต้นพุนที่แพงที่สุดของธุรกิจ
01:33และที่สำคัญกว่านั้นทดลองใช้ได้ 15 วัน
01:36ใครอยากสัมผัสกว่ามง่ายกว่าที่เคย
01:38คลิกลิงค์ที่แคปชั่นเลย
01:41การเดินทางข้ามเวลาไม่ว่าจะเป็นการย้อนกลับไปในอดีต
01:44หรือข้ามช่วงเวลาไปอย่างอนาคต
01:47หรือการเหลือมกันของเวลา
01:49ไม่ได้เป็นไอเดียที่เพิ่งเกิดขึ้น
01:51แต่แอบแฟงอยู่ในวัฒนธรรมของมนุษย์มาหลายพันธีแล้ว
01:54เราอาจจะเคยเห็นตำนานเรื่องร่าวหรือบันทึกทางสัสนา
01:58ยกตัวอย่างเช่นในไตภูมิพระร่วง
02:01ที่พูดถึงเรื่องของนารก สวรรย์
02:03การเวียนไว้ตายเกิด
02:05และโปรงสร้างของจักรวาน
02:07ซึ่งก็ได้มีการพูดถึงว่า
02:08ปรางที่ในจักรวานเวลาจะผ่านไปช้ากว่าที่อื่น
02:12แต่เมื่อวิทยาศาสตร์จะเรินก้าวหน้าขึ้น
02:15ก็ได้เห็นการเอาช่องโมงของทิสดีต่างๆ
02:17มาเปิดโอกาสให้เกิดการเดินทางข้ามเวลาขึ้น
02:21นิยายวิทยาศาสตร์เรื่องแรกที่พูดถึงการย้อนเวลานั้น
02:24ก็อย่างเช่น ซื้อ Time Machine ที่ถูกเขียนโดย H.J. Wells
02:29นักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์คนสำคัญของโลก
02:31ในนิยายเรื่อง The Time Machine นั้น
02:34Wells นะคะ ก็ได้เขียนถึงนักวิทยาศาสตร์ที่เดินทางค่าเวลาใบยังปี 82,701
02:40ซึ่งนักย้อนเวลาก็ได้พบเจอกับมนุษย์ในอนาคต
02:44ก่อนจะเดินทางกลับมายังปัจจุบันค่ะ
02:47ในเรื่อง Time Machine นั้นก็ได้อธิบายว่าเวลาเปลี่ยบเสมือนกับมิติที่ 4
02:52วัดถูดใดาย ๆ จะไม่มีอยู่จริง
02:54ถ้ามันไม่เคยอยู่ในช่วงเวลาใด
02:57ซึ่งแนวคิดของ Wells นั้นก็ใกล้เคียงกับนิยามของเวลาในฟิศิก์ยุคใหม่อย่างมาก
03:03และเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดนิยายวิทยาศาสตร์ที่พูดถึงการย้อนเวลาเรื่องอื่น ๆ ค่ะ
03:08ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าถึงที่นิยายของเวล์สนั้นนะคะ
03:11เกิดขึ้นก่อนที่นักฟิศิก์ Albert Einstein
03:15จะสร้างทิสดิสัมพันธภาพทั่วไป
03:17และสัมพันธภาพพิเศษในปี 1915
03:20ซึ่งอธิบายได้ว่าเวลาแต่ละที่ในเอกภพ
03:24ไม่ได้เดินไปข้างหน้าเท่ากัน
03:27แต่จะมีบางจุดที่เวลาผ่านไปช้ากว่าที่อื่น
03:30หรือเร็วกว่าที่อื่น
03:32เมื่อเดินทางใกล้กับความเร็วแสงมากแค่ไหน
03:35เวลาก็จะยิ่งผ่านไปช้าลง
03:37หรือว่าเมื่ออยู่ใกล้วัตถุดที่มีมวนมาก
03:40ก็จะยิ่งดึงให้เวลาผ่านไปช้าลงเช่นเดียวกัน
03:44เราสามารถที่ใบทิสดีนี้ได้ผ่านทางโครงสร้างที่เรียกว่า
03:48ปรริภูมิเวลา หรือ Space Time
03:51ที่เปรียบเสมือนพืนผ้าที่รองรับมวนของสะสารในจักรวารเอาไว้
03:56ยิ่งวัดผุมมีมวนมาก
03:58พืนผ้าก็จะถูกทำให้บิดโคง
04:00ปริมาณการบิดโคงยิ่งมากขึ้น
04:02เวลาก็จะยิ่งผ่านไปช้าลงค่ะ
04:06ทิสดีสัมพันธภาพนี้เองนะคะ
04:07ก็เลยได้กลายมาเป็นช่องว่างทางจิตนการ
04:11ให้กับนิยายวิทยาศาสตร์
04:12และภาพยนต์ Sci-Fi ในยุคปัจจุบัน
04:15ที่อาศัยการยืดของเวลา
04:17หรือว่า Time Dilation
04:18มาใช้ในการดำเนินเรื่องค่ะ
04:21การเดินทางข้ามเวลาแบบ Time Dilation นั้น
04:24เรามักจะเห็นในภาพยนต์ที่ตัวเอก
04:26จะต้องเดินทางในอาวกาศ
04:28ตัวอย่างเช่น Interstellar
04:34ที่ตัวละครเอก Cooper
04:36ได้รับภารกิจให้เดินทางไปในอาวกาศ
04:38ห่วงลึกผ่านรูหนอนประยังกาเล็กซี่อื่น
04:49ซึ่งเวลาที่ตัวเอกพบเจอนั้น
04:51ช้ากว่าบนโลก
04:52เมื่อ Cooper กลับมาเจอกับลูกสาว
04:55ก็พบว่าลูกสาวนั้นแก่กว่าตัวเองอย่างมากค่ะ
04:58การเดินทางข้ามเวลาในลักษณะนี้นะคะ
05:00ถือได้ว่าเป็นไปได้จริง
05:02ได้มีการพิสูตรมาแล้วในหลากหลายสนาการ
05:05เช่นนาฑิกาบนดาวเทียม
05:07ที่กำลังโคจอนรอบโลก
05:09จะเดินเร็วกว่านาฑิกาบนโลก
05:11หรือการโคจรของดาวพุทย์รอบดวงอาทิตย์ที่เปลี่ยนไปในแต่ละทดสวัสด
05:17หรือลำแสงที่บิดโคงเมื่อเดินทางผ่านวัตถุที่มีมวลมากอย่างลุ่มดำ
05:22ที่เรียกว่า Gravitational Lensings
05:25ทำให้การเดินทางข้ามเวลาในลักษณะ Time Duration เกิดขึ้นได้จริงๆ ค่ะ
05:29แต่ว่าการเดินทางข้ามเวลาแบบ Duration นั้นนะคะ
05:33ก็ไม่ได้อนุญาตให้เรากระโดดไปกระโดดมาระหว่างอดีตกับอนาคตได้
05:38เพราะเวลาแม้จะไหลไปด้วยอัตราที่ไม่เท่ากัน
05:41แต่ก็ยังไหลไปข้างหน้าเสมอ
05:44แล้วถ้าเราต้องการเดินทางประยังอดีตละ จะเป็นไปได้ไหม
05:48นัฟิสิกซ์ Stephen Hawkins นะคะ
05:50เขาก็ได้พูดถึงความเป็นไปไม่ได้ของการย้อนเวลาประยังอดีต
05:55ซึ่ง Hawkins ก็ได้เรียกมันว่า
05:57Cronology, Protection, Conjecture แปลว่า
06:00ข้อสมมติฐานการป้องกันลำดับเวลา
06:03ที่บงบอกว่าการย้อนเวลากลับไปยังอดีตนั้น
06:07เป็นสิ่งที่ไม่สมเหตุสมผล
06:10และขัดต่อหลักฟิสิกซ์ที่เรารู้จักกันอย่างมากค่ะ
06:13ก็ต้องบอกตามตรงนะคะว่า
06:15ด้วยธิสดีสัมพันธภาพของ Einstein
06:18นั้นยังไม่อนุญาตให้มีการเดินทางย้อนไปยังอดีตเกิดขึ้นได้
06:22แม้จะมีการตั้งสมมติฐานว่า
06:24หากมนุษย์สามารถค้นพบสะสารแปลกปลาด
06:27หรือ Exotic Matter
06:29ที่ไม่สามารถอธิบายด้วยธิสดีฟิสิกปัจจุบันได้
06:32สะสารที่มีมวลติดลบ
06:35หรืออนุภาคที่สามารถเดินทางได้ด้วยความเร็วเหนือกว่าความเร็วแสง
06:40ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นเพียงสมมุติฐานเท่านั้นค่ะ
06:44ยกตัวอย่างของภาพยนต์ที่มีการย้อนเวลากับไปยังอดีตได้ก็เช่น
06:48Back to the Future
06:49ที่มีการใช้ลดย่นด้วยรอรีน
06:52ติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ
06:53ที่พาให้การเดินทางข้ามเวลาเกิดขึ้นได้จริง
07:02ภาพยนต์ที่เปิดโอกาสให้มีการเดินทางกระโดดข้ามไปมาระหว่างอดีตกับปัจจุบันนั้น
07:07โดยมากแล้วก็จะมีความเป็นแฟนตาซี
07:10และไม่ได้อธิบายหลากการที่ใช้มากนัก
07:13บางเรื่องก็เป็นเรื่องแนวแนวเวทมุน
07:16เช่นเครื่องย้อนเวลาของ Hermione ใน Harry Potter
07:20หรือเป็นเรื่องปฏิหาร อย่างเช่นในถวิพพบค่ะ
07:24การย้อนเวลาไปยังอดีตก็ยังขัดตอนหลักเวท และผล
07:28ซึ่งทำให้ความสมเหต llevสมผล ของจัดกระวานนี้ผ่างพลายลง
07:32วิธิการอธิบายที่โดงดังที่สุดที่set มาก็ถูกนำมาใช้อธิบายว่า
07:36ทำไมการย้อนเวลากลับไปในอดีต
07:38เป็นสิ่งที่ไม่สมเหตีสมผล นั้น
07:41ก็ได้แก่ความย้อนแย้งของป� constructor chick หรือ grandfather paradox
07:46Granmoreciparadox นั้นนะค่าอธิบายไว้ว่าก็เมื่อของย้อนพลับไปอย่างอดีตได้จริง
07:52และพบกับคุณปูตัวเอง
07:55ถ้าเราค่าคุณปูตรของเราซะ
07:58แล้วเราคือใคร
07:59เพราะถ้าไม่มีคุณปูก็จะไม่มีพ่อของเรา
08:02ถ้าไม่มีพ่อของเราก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นมาได้
08:06อย่างในเรื่อง empirical Policy stalk
08:09ได้มีการสร้างอุปกรณ์ในการเคลื่อนย้ายตัวเองไปยังประริภูมิเวลาต่างๆ
08:14แต่ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนย้ายตัวเองไปยังอดีตหรืออนาคต
08:18ก็จะเสี่ยงต่อการทำให้ความสมเหตุสมพลของจักกวัล พังทลายลง
08:23ก็คือเราต้องเล่นเก็บไปทางจอก
08:25ฉันแค่อยากจะช่วยของที่ฉันรักแค่นั้นเอง ถ้าขอบความหวันไว้ที่ฉันเกินไปแล้ว
08:33เรียกว่า Breakdown of Cauturality
08:36ก็ถือว่าเป็นการหยิบเอาความไม่สมเหตุสมพลมาสร้างเป็นอุปศักษณ์ในเนื้อเรื่องได้ด้วยค่ะ
08:42ทั้งหมดที่เรามานั้นเป็นการอาศายการมองผันเลนซ์ของทธิสัมพันธภาพ
08:47ที่มองจักกวัลของเรานั้นเป็น Timeline เดียวกันตั้งแต่การถือกำเหมือขึ้น
08:53เมื่อมองเป็น Timeline แบบเดียวกันนี้ Cauturality จึงเป็นสิ่งสำคัญ
08:57ที่ป้องกันไม่ให้ความสมเหตุสมพลของจักกวัลถูกทำลายลงได้
09:02ทำให้ความเป็นไปได้ของสิ่งที่จะเกิดขึ้นนี่์เอ่อเยอะมาก
09:28พูดง่ายๆก็คือจะมีตัวเราในอีกหลากหลายเวอร์ชั่นเกิดขึ้นใหม่ในทุกความเป็นไปได้
09:35โดยอาศัย Quantum Physics หรือ Thissery String ค่ะ
09:39ซึ่งแนวคิดเรื่องพระหุดจักรวานนี้นะคะ
09:41ก็ถูกอธิบายผ่านหลากหลายทิสดีทางฟิสิก
09:44ที่ยังมีช่องว่างให้จักรวานเหล่านี้เกิดขึ้นได้
09:48เช่นจักรวานของเราอาจจะลออยู่ในช่องว่างที่มีขนาดใหญ่กว่าจักรวานของเรา
09:53ร่วมกับจักรวานอื่นๆ
09:55เราเรียกช่องว่างนี้ว่าบอก
09:57และเรียกแต่ละจักรวานที่ล่องลออยอยู่ว่าเบรน
10:00ซึ่งดักฟิสิกมิชชิโอคคาคุ
10:02ได้เคยนำแนวคิดนี้มากล่าวถึงในหนังสือ
10:05Parallel Worlds, A Journey Through Creation, Higher Dimensions and The Future of Cosmos
10:11หรือบางทิสดีก็บอกว่าในตอนที่จักรวานได้ทุกสร้างขึ้น
10:14ก็อาจมีจักรวานอื่นทุกสร้างขึ้นเช่นกัน
10:18แถมอาจมีอัตราส่วนของพลังงานุภาค
10:21ที่แตกต่างจักรวานที่เรารู้จักโดยสิ้นเชิง
10:24ทำให้กดทั้งฟิสิก
10:25ในจักรวานของเราอาจไม่สามารถนำไปใช้ให้จักรวานอื่นได้ค่ะ
10:30แต่ทั้งหมดนี้ก็นำมาซึ่งช่องว่างที่ทำให้ภาพยนต์หลากล้ายเรื่อง
10:35เลือกที่จะเอาแนวคิดแบบพระหุทจักกรวานมาใช้ดำเนินเรื่อง
10:39เช่นในเรื่อง Everything Everywhere All As Once
10:42ที่ตัวเองจะต้องไปพบเจอกับตัวเองในจักกรวานต่างๆ
10:46แม้ในเรื่องจะไม่ได้มีการอธิบายกดทางฟิสิคว่าการเดินทางข้ามจักกรวานนั้นเป็นไปได้อย่างไร
10:53แต่ก็ถือว่าเป็นการมองหาความเป็นไปได้
10:56ซึ่นนำมาซึ่งข้อสรุปในทางประชยา ถึงคุณค่าในการมีชีวิตอยู่
11:10หรือในภาพยนต์เรื่อง Our Rangers Endgame
11:13ที่ได้หยิบเอาพระหุทจักกรวานมาสร้างเป็นเส้นเรื่องใหม่ๆ
11:16โดยอาศัย หลักกลละสาทควันต้ำ
11:19ว่าด้วยเรื่อง Many Worlds Interpretation มาอธิบายค่ะ
11:30ภาพยนต์สายไฟล์สัญชาติไทยอีกเรื่อง
11:33อย่าง Uranus 2324
11:35ได้อธิบายกลไกลของการเดินทางข้ามจักกรวาน
11:38ผ่านการสัมภาษณ์กับสะสารแปลกประหลาด
11:41ที่เดินทางมากับดาวหาง
11:42ทำให้ตัวละครในเรื่อง
11:44สามารถเปิดประตูสู่การเดินทางข้ามจักกรวานได้
11:48และได้ไปเจอกับคู่รักของตัวเองในพระหุดจักกรวานอื่นๆ
11:52ในโลกที่บางอย่าง
11:53มีทั้งเหมือนและไม่เหมือนกับในจักกรวานที่ตัวเองเดินทางมาค่ะ
11:57อีกเรื่องที่มาแปลกนะคะและสร้างสารมากๆก็คือ
12:01Tenet
12:02ที่ไม่ได้เป็นการย้อนเวลาแบบกระโดดข้าม
12:05แต่เป็นการอาศัยการไหลทวน entropy
12:08หรือคุณสมบัติทาง Thermodynamic
12:10ว่าด้วยสภาวะที่ไร้ระเบียบเมื่อเวลาผ่านไป
12:14ซึ่งการนำเอาหลักการแบบหลวมหลวมมาสร้างเงินไขว่า
12:18ถ้าเราจะย้อนอดีตสิ่งที่จะเกิดขึ้น
12:21ก็คือการกรอเวลากลับไปเหลือนเรากรอเทพ
12:25ทำให้ในเรื่องเราจะเห็นคนเดินห FriendHunter or Seb why
12:31ซึ่งก็เป็นการตีความที่นำไปสู่ความขัดแยงในภาพยนที่จร้างสันมากๆค่ะ
12:37เราจะสังเกตว่ายิ่งที่สุดีการเดินทางข้ามเวลาในภาพยนนั้นยากแค่ไหน
12:42หลักการที่เราหยิบยกมาใช้อธิบายก็จะยิ่งมีความหลวมมากขึ้นเท่านั้น
12:47นั่นก็เพราะว่าจริงๆแล้ว Sci-Fi ก็คือการนำเอาสิ่งที่เรารู้ และสิ่งที่เรายังไม่เข้าใจ
12:54มาตีความเพื่อเปิดช่องว่างทางจินตนาการ สร้างความสรุษนาน
12:59ดังนั้นเวลาเราดูภาพยนต์ก็ให้นึกว่าเรากำลังชมภาพยนต์อยู่
13:04ไม่ต้องไปเคลียดว่ามันสมจริงหรือไม่อย่างไรค่ะ
13:08กลับมาสรุปให้ฟังกันอีกรอบหนึ่งนะคะว่า
13:10เราอาจมองแนวทางการเดินทางข้ามการเวลา
13:13ในภาพยนต์ได้เป็นสามรูปแบบใหญ่ๆ
13:16ก็คือการเดินทางไปอย่างอนาคต
13:19โดยอาศัยทิสดีทางฟิสิค
13:20ที่ได้ถูกพิสุดแล้วว่า
13:22เวลาในแต่ละที่ของจากวันนั้น
13:24เดินไม่เท่ากัน
13:26การย้อนกับไปอย่างอาดีท
13:27โดยอาศัยสะมุติธาน
13:46พอเรายอกแบบนี้แล้ว
13:47เราจะพบว่าในภาพยนต์เรื่องต่างๆ
13:50ก็จะมีกลไกลที่เปิดประตูสู่การย้อนเวลาที่แตกต่างกัน
13:54และบางเรื่องอาจจะไม่ได้ใช้กลไกลเดียวด้วย
13:58เช่น Interstellar ที่มีการพูดถึง Time Duration
14:02ว่าดาวแต่ละดวงเวลาผ่านไปไม่เท่ากัน
14:05ประกอบกับกับการที่ตัวเอกสามารถเดินทางข้ามปริภูมิเวลา
14:09ได้ผ่านการใช้รูนอนค่ะ
14:11หรือภาพยนต์บางเรื่องก็ไม่ได้จำเป็นต้องอาศัยกดทางฟิศิกขนาดนั้น
14:15แต่ใช้การบิดเส้นเรื่องเพื่อสร้าง Timeline ของตัวเอง
14:19อย่างเช่นซีรีย์ อย่ากลับบ้าน
14:21ที่ว่าเส้นเรื่องให้เป็นวงกลม ลูบวนไปเรื่อยเรื่อย
14:31คาลโลเวลี่นักฟิศิกภูเขียนหนังสือ The Order of Time
14:35ได้อาธิบายไว้ว่าแม้เวลาในเชิงฟิศิกภูเป็นเพียงแนวคิดที่สับซ้อน
14:40และอาจไม่ได้มีอยู่จริง ในความหมายที่เราพุ้นเคย
14:44แต่ว่าเวลาในเชิงประชยาและมนุษยศาสตร์มีความสำคัญอย่างลึกซึ้ง
14:49เพราะเป็นกรอบที่ทำให้เราเข้าใจชีวิต ความสัมพันธ์ และการเปลี่ยนแปลง
14:55สุดท้ายภาพยนศไฟไฟที่พูดถึงการย้อนเวลาของมนุษย์
14:59นอกเหนือจากความหมายในทางฟิศิกภูแล้ว
15:02ก็อาจเป็นการแสดงออกเชิงสัญญะที่บ่งชีว่าเรามีความผูกพันธ์
15:06ยึดติด และอยากแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต
15:09หรือเร่งรัฐที่จะมองเห็นอนาคต
15:12ซึ่งเป็นสิ่งที่ฟิศิกภูและปัจจุบันยังไม่สามารถทำได้
15:16ครั้งหน้าเวลาที่เราดูภาพยนศไฟไฟ
15:19นอกจากความสมจริงแล้ว
15:20ก็อย่าลืมมองผ่านเลนซ์ที่ผู้เขียนต้องการจะบอกเรากันด้วยนะคะ
15:26ให้ระดับความวิทย์ของ EP นี้วัยสัก
15:29เข้าจะยากเหมือนกันนะ
15:31สัก 7 บิกเกอร์เลยละกันค่ะ
15:33เพราะว่าเป็นเรื่องจินอนาการล้วนๆ
15:35ถ้าใครฟังทันค่อนข้างถือว่า
15:38คุณก็พอจะมีความเข้าใจเรื่องฟิศิกควันต้ำอยู่เหมือนกันนะคะ
15:42ส่วนตัวเชอเองนะคะถามว่าเราย้อเวลาได้ไหม
15:45ไม่รู้เหมือนกันเพราะว่าพิสุดไม่ได้
15:47แต่เชื่อว่าการอยู่กับปัจจุบันน่าจะดีที่สุดค่ะ
15:50อย่าลืมติดตาม The Width Dom-Dom
15:51ของคนชอบวิทย์นะคะว่าคลิปต่อไปเชอจะหยิบเรื่องอะไรมาเล่า
15:55ปากกด like กดแชร์วีธีกันด้วยนะคะ
Be the first to comment
Add your comment

Recommended