Skip to playerSkip to main content
  • 2 days ago

Category

📚
Learning
Transcript
00:00:00It's Matric Representation.
00:00:05I don't know what it is, but it's Matric Represent.
00:00:11I don't know what it is.
00:00:15I don't know what it is.
00:00:20Matric Representation.
00:00:26It's a problem.
00:00:34I'm not sure what it is.
00:00:37I'm not sure what it is.
00:00:40It's not a problem.
00:00:44It's not a problem.
00:00:48As first, he said that T is linear transformation, like the same.
00:00:58Let's set B to set.
00:01:02Let's set V1, V2, V3, V1, V1, V2, V3, V1, V1, V2, V3.
00:01:10그림 on screen and sketch.
00:01:16pilgrimage, switch changes versus V1, V1,xe Plaza, V2, V2, V3, V4, V3 outman, V1, V2, V3, V3.
00:01:33colored action is coordinate.
00:01:35นะครับ เรียบไปแล้ว ที่กัด นะครับ พอห้อย B-palm เนี่ย
00:01:42จะเท่ากับ ABB ไฮไลท์ สูตรนี้ก่อน
00:01:50อย่าใช้เรื่องเก่าข้างข้างเยอะ นะครับ มันก็คือสูตรนี้ มันก็คือ
00:01:56สูตรใหญ่นี่เลยนะครับ เขาจะเรียกตัวนี้ว่า
00:01:59Matic Representation of T Related to B and B-palm เรียกว่า
00:02:05Matic Representation of T Related B and B-palm เป็นแบบ
00:02:12มีเป็นความสัมพันธิ์ของ B กับ B-palm นะครับ
00:02:16เราสังเกตสูตรให้ดีนะ ตรงนี้มันเป็น B-palm ใช่ไหม
00:02:19อันนี้จะเป็น Change of Basit นะครับ จาก B to B-palm นะ
00:02:23อันนี้ B to B-palm
00:02:24B to B-palm เวลาอ่านอ่านหลังมาหน้าใช่ไหม
00:02:28เรื่อง Change of Basit นะครับ แต่อันนี้เป็นพิกัดนะครับ
00:02:33ของ B เดี๋ยวเรามานั่งไล่หาตัวนี้
00:02:37กันวันนี้ใช้เรื่องเก่าด้วย
00:02:49ใช้ Change of Basit เข้ามานิดนึง
00:02:53นี่เดี๋ยวนั่งไล่ใหม่ พี่ก็ลืมแล้วเหมือนกัน
00:02:58ไม่ทำนาน แต่ดีจดไว้นะครับ
00:03:02เช่นเดิม เหมือนเมื่อวานนี้นะครับ
00:03:06อันนี้เปลี่ยนจาก R3 มาเป็น R2 ใช่ไหม
00:03:10R3 มาเป็น R2 นะครับ
00:03:12ตัวนี้ก็จะเป็น Order Basit
00:03:17Representation of T
00:03:19Referent to the Order Basit
00:03:22B กับ B Palm
00:03:24นะครับ
00:03:25of R3 and R2
00:03:27อันนี้เป็น R3 อันนี้เป็น R2
00:03:28Representation
00:03:30นะครับ
00:03:31ตัวนี้ก็จะเป็น Order Basit
00:03:34of V อันนี้เป็น Order
00:03:40Basis of W
00:03:48อันนี้เราจะทำเป็น Step ไล่ Step ตามไปนะ
00:03:52ก็คือเราจะหาตัวนี้ ตัว
00:03:56ตัวที่อยู่ในสูตรนี้นะครับ
00:04:00อ่ะ Step ที่ 1
00:04:04Step ที่ 1 นะครับ
00:04:07เราจะทำการหา Change Off Basit ก่อนนะครับ
00:04:11เริ่มจากตัว B นะ
00:04:13มันต้อง B2B Palm ใช่ไหม
00:04:15มันต้องเริ่มจากตัว B นะครับ
00:04:17พอนั้นเราจะทาน Formation ตัว B ทั้งหมด
00:04:20ทาน Formation ตัว B ทั้งหมด B มีอะไรบ้าง
00:04:23100
00:04:26ทาน Formation ตัว B ให้หมดเลย
00:04:28110 แย่กันนะครับ
00:04:32ทาน Formation 111
00:04:39แปลงรหัสให้พี่หน่อย
00:04:42100 เอามาทาน Formation ในนี้นะ
00:04:45เอา B มาตั้งนะครับ
00:04:46เอา B มาตั้งในต่อละตัว
00:04:48แปลงรหัสได้เป็น 3x1 บวก x3
00:04:523x1 บวก x3 ตัวแรกได้เป็น 3
00:04:55คูณ 1 บวก 0
00:04:58ใช่ไหม
00:04:593x1 บวก x3
00:05:02อันที่ 2 เป็น x2 ลบกับ 2x3
00:05:07x2 ได้ 0 ลบกับ 2x3
00:05:10x3 ก็เป็น 0 อ่ะนะก็นั่งไล่ไป
00:05:12ก็จะแปลงรหัสออกมาได้แล้ว
00:05:14เป็น 3-2
00:05:16ทาน Formation ทุกตัวก่อน
00:05:18ทาน Formation ตัว B ให้หมด
00:05:233x1 บวก x3 เป็น 0 เหมือนเดิม
00:05:26อีกอันหนึ่งเป็นไรนะ
00:05:29x2 ลบ 2x3 ใช่ป่ะ
00:05:31x2 เป็น 1 ลบ 2x3 เป็น 1 เหมือนกัน
00:05:36ให้ ลบ 2x3 เป็น 0
00:05:38อันนี้ได้ 3-1
00:05:42ให้ 3 1 ว่ะ
00:05:44เพราะว่าข้างหลังเป็น 0
00:05:47อันสุดท้าย
00:05:49ถา
00:05:51ก็ได้ 0
00:06:00อันสุดท้าย
00:06:023x1 บวกกับ x3
00:06:063 คูณ 1 บวกกับ 1
00:06:08แล้วก็ x2 ลบ 2x3 ลบ
00:06:12x2 ได้ 1 ลบ 2x3 ก็ได้ 1
00:06:16อันนี้ได้ 4-1
00:06:23โอเค ทานฟอร์เมชั่นมาเรียบร้อยแล้วถ้าเต็บที่หนึ่งนะครับ
00:06:32นี่คือตัวทานฟอร์เมชั่นแล้วนะ เดี๋ยวเราเอาตัวทานฟอร์เมชั่นไปตั้งนะครับ
00:06:38แล้วเดี๋ยวเราจะทำเหมือน Linear Combination นะ เหมือน Linear Combination
00:06:46ตั้งเป็น Step เลยนะเรื่องนี้นะครับ
00:06:51ตัวที่ Transform เรียบร้อยแล้วมาตั้งนะครับ
00:06:58ทีนี้เวลาเราทำเนี่ย จะคล้ายคลายกับตอนที่เราทำ Change of Basics นะครับ
00:07:09ก็คือเอา B มาเอาตัวทานฟอร์เมชั่นมาตั้งเรียบร้อยแล้วนะครับ
00:07:13มันก็จะเกิดเป็น เหมือน Linear Combination นะ
00:07:17เป็น A1 คูณกับ W ตัวแรก
00:07:20W ตัวแรกเป็นอะไร เป็น W เป็น 1 1 ปะ
00:07:23อันนี้ W นะ อันนี้ W 1 อันนี้ W 2
00:07:26อันนี้ W 1 อันนี้ W 2 อันนี้ W 3
00:07:29อันนี้ W 1 อันนี้ W 2 นะครับ
00:07:35A 2 W 2 อันนี้ W มาใช้
00:07:40ได้มาจากตัว W หรือว่า B พาร์ม นั่นแหละ
00:07:55อันนี้ W 1 อันนี้ W 2
00:07:59ได้มาจากตัว W หรือว่า B พาร์ม นั่นแหละ
00:08:10มันทำจาก B ไป B พาร์ม
00:08:13แก้หา A ให้ที่หน่อย ทั้งหมดเลย
00:08:16อันนี้ก็คือ แล้วแต่เราจะแก้ไงก็ได้
00:08:18จะแก้ด้วยสรรมการก็ได้
00:08:20หรือจะแก้ด้วย Row Operation ก็ได้
00:08:22แล้วแต่เราทำเลย แล้วแต่ชอบ
00:08:25แก้หา A1 A2 B1 B2 C1 C2 มันจะเป็นตัวเลขหมดเลย
00:08:29เอาแก้ปัดไหน เอาแก้ปกติไหม
00:08:36มันต้องแบ่งเป็น 3 Lock นะ
00:08:39ถ้าแก้แบบปกติก็จะเป็น A1 B2 A2 เท่ากับ 3 สรรมการที่ 1
00:08:51A1 B2 เท่ากับ 0 สรรมการที่ 2
00:08:57อันนี้นะ ชุดแรก
00:09:01เพื่อแก้แบบปกติก็ได้นะครับ
00:09:03เอาสรรมการที่ 1 ลบสรรมการที่ 2
00:09:07รบสรรมการที่ 2
00:09:09เหลือ A2 เท่ากับ 3
00:09:13เล็บอิน 2 แล้วกัน
00:09:19ได้ A1 B3 เท่ากับ 0
00:09:23ได้ A1 เป็น ลบ 3
00:09:25อันนี้แล้วก็ได้ ลบ 3 3 ครับ
00:09:29ใน A1 กับ A2 มาละแก้ไปปกติ
00:09:33หรือจะแก้ด้วย low operation กันแล้ว
00:09:35แต่ถ้ามันเยอะก็แก้ด้วย low operation ถ้ามันเยอะก็แก้ด้วยแบบนี้เลย
00:09:39แก้ด้วยสรรมการปกติ
00:09:41มี 1 บวก 2 B2 เท่ากับ 3 สรรมการที่ 3
00:09:51B1 บวก B2 เท่ากับ 1 สรรมการที่ 4
00:09:58เอาสรรมการที่ 3 ลบสรรมการที่ 4 แล้วกัน
00:10:04B2 เท่ากับ 3 ลบ 1 เหลือ 2
00:10:09ได้ B2 เป็น 2
00:10:10เล็ดอิน 4
00:10:14B1 บวก 2 อันนี้แก้ธรมดา
00:10:18อันนี้มี 1 เท่ากับ ลบ 1 อ่ะ
00:10:22แก้สรรมการธรมดา
00:10:30C1 บวก 2 C2 เท่ากับ 4 สรรมการที่ 5
00:10:37C1 บวก C2 เท่ากับ 1 สรรมการที่ 6
00:10:43สรรมการที่ 5 ลบสรรมการที่ 6
00:10:47C2 เท่ากับ 5
00:10:57เล็ดอิน 6
00:10:59C1 บวก 5
00:11:03เท่ากัน ลบ 1 ไม่ได้ C1 เป็น ลบ 6
00:11:11C2 เป็น 5
00:11:23C2 เป็น 5
00:11:25C2
00:11:37เสร็จแล้วพอได้ AB ออกมาแล้วเนี่ย
00:11:39เราจะได้ชุดแรกออกมา
00:11:41คือชุดของ
00:11:43C2
00:11:45C1
00:11:47100
00:11:49C2
00:11:51C2
00:11:53C2
00:11:55C2
00:11:57C2
00:11:59C2
00:12:01C2
00:12:03C2
00:12:05C2
00:12:07C2
00:12:09C2
00:12:11C2
00:12:13C2
00:12:15C2
00:12:17C2
00:12:19C2
00:12:21C2
00:12:23C2
00:12:25C2
00:12:27C2
00:12:29C2
00:12:31C2
00:12:33C2
00:12:35C2
00:12:37C1
00:12:38C2
00:12:39Oh
00:12:43Well, three
00:12:44You
00:12:46You
00:12:48You
00:12:50You
00:12:52You
00:12:54You
00:12:56You
00:12:58You
00:13:00You
00:13:02You
00:13:04You
00:13:09A B to B prime นะครับ แล้วก็เอาคำตอบ 3 ตัวเนี่ย มาใส่
00:13:35you
00:13:39อีกปัดหนึ่งนั่ง
00:13:58ไม่ขาด V ว่ะ ใช่ป่ะ เดี๋ยวต้องหา V เพิ่มป่ะว่ะ
00:14:03อ๋อ มันหา มันต้อง add zoom เองวะ เพราะว่าอาจารย์ไม่กับปกติเนี่ย เขาจะต้องกำหนดค่า V ให้ด้วย
00:14:13นี่ V B อ่ะ เขาไม่ให้มาข้อเนี่ย เดี๋ยวต้อง add zoom เองวะ มันทําทีไม่ได้ตอนเนี่ย ทำได้แต่ A นะ มันยังหา
00:14:24ให้ตัวทีไม่ได้ มันต้องมี V B มาคูณด้วย เห็น V B ตรงนี้ปะ ตอนนี้เราได้ ได้แค่เฉพาะ
00:14:30พอแมติกนี้มา แต่มันยังไม่ได้ V B ไว้ ซึ่ง V B ข้อเนี้ย เขาไม่ให้ ปกติเนี่ย ใน assignment เนี่ย ทั้งหลายทั้งโปร์เนี่ย เขาจะให้ V B มาเลยนะ
00:14:38ว่าเอาเลขอะไร นี่ต้อง Random มั่วข้างมาเอง น่ะ ต้อง Land สักอันหนึ่ง อ่ะ
00:14:44อันนี้พี่ Land อะไรว่า ขอดูกัน ต้อง AdSume นะ ทำต่อ เขาไม่ยอมให้ ปกติเขาต้องให้ในโจทย์นะ ต้อง AdSume นะครับ
00:14:59AdSume V B ต้อง AdSume เอง นะครับ เป็นอะไรก็ได้ พี่เอา 423
00:15:11เป็น สมาชิค ของ R3 นะครับ ดี จริง อาจารย์ เขาต้องเป็นคนกำหนดให้ว่า จะเอา AdSume เลขอะไร ไม่ต้องตรวจกัน ตาย ตาแหก ดี ใช่ป่ะ ตรวจไม่เหมือนกัน ในตาแหก ตาย นะครับ
00:15:23ต่อไป เราจะหา ตัว Matrix Represent
00:15:28ที่ V B พลัม นะครับ ฟอร์ม สูตร นะ จาก สูตร ที่ V
00:15:38B พลัม แม็ตริก เป็น เซ็นต์ จะ เท่ากับ เช้ง อออเปซิต B to B พลัม แล้วก็ V B
00:15:48ใช่มั้ย จาก สูตร แม่ อันนี้คือ สูตร แม่ นะ เห็นป่ะ มันขาด ไป อย่างหนึ่ง ขาด V B อย่างหนึ่ง
00:15:57ไม่ได้วะ มัน ต้อง นั่ง หา ใหม่ วะ ครับ นึง แล้ว ขอ พี่ คิด ก่อน
00:16:19ก็ ก็ ต้อง ดู V แม่ นะ เห็นป่ะ
00:17:06Oh, it смeth V ยังเดียว.
00:17:12แล้วร่ว็ค่อยมาเปลี่ยนหาร อีกทีอยู่ อันนี้ ต้อง แก้ แล้วร่ว อันนี้ กำ like, video, aux.
00:17:14ject, facing, dog, víyy.
00:17:16ยังเดียวอย่างไม่ต้อง behّพูดบี้ strategy, อยู่ต้อง harя Bau b ทีใน we component,
00:17:22นี้ กำ Chicken gut v อย่างเดียว assume be, เป็น อะไรก็ได้นะครับ
00:17:264 2 3, L mañana 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1, 2 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 2 1 1 1 1 1 1 1 1.
00:17:30We have to look at V, which is B.
00:17:33From VB,
00:17:42from 4, 2, 3,
00:17:44we have to make a combination of linear,
00:17:48we have to use B.
00:17:50We have to use B.
00:17:52We have to use B.
00:17:54B is what?
00:17:55If B is B,
00:17:57we have to use B.
00:17:59There are 3, there is no one.
00:18:01100,
00:18:03and D2,
00:18:05there is 110,
00:18:07and D3,
00:18:09111,
00:18:11we have to use D.
00:18:13This is V.
00:18:15If we use B,
00:18:19it becomes B.
00:18:21It's like V.
00:18:23It's like B.
00:18:25D1,
00:18:27D2,
00:18:29D3,
00:18:30it's like B.
00:18:31It's like B.
00:18:32It's like B.
00:18:33It's like B.
00:18:35Oh,
00:18:37but it's like B.
00:18:38It's like B.
00:18:39There are three.
00:18:41It's like B.
00:18:43It's like B.
00:18:45I'm sure B.
00:18:47It's like B.
00:18:48Oh, but actually, it's really good for you, isn't it?
00:18:56I don't have to go to this one.
00:19:02Yes, it's D1 plus D2 plus D3.
00:19:08It's really good for 4.
00:19:10It's the first one.
00:19:12Okay.
00:19:13And then, D2 plus D3 is equal to 2.
00:19:18And then, D3 is equal to 3.
00:19:23And then, D3 is equal to 3.
00:19:25So, D3 is equal to 3.
00:19:27So, D3 is equal to 2.
00:19:29We will take this second one.
00:19:43Tend.
00:19:45I want to do that.
00:19:47Is there what?
00:19:53Is there D2 if it's minus 1?
00:19:55Is there D2 if it's minus 1?
00:19:57Is there D3 if it's minus 1?
00:19:59Is there D3?
00:20:01Is there D3 if it's minus 1?
00:20:07Are we open?
00:20:09eh
00:20:11a
00:20:13a
00:20:15a
00:20:17a
00:20:19a
00:20:21a
00:20:24a
00:20:26a
00:20:28a
00:20:30a
00:20:38One is 2.
00:20:41ตรงกันกับวิธี low.
00:20:46อันนี้พี่ทำ low operation มาเมื่อวันก่อน.
00:20:52แต่รอบนี้เราจะไม่ทำ low operation แล้วเราจะแก้ด้วยสมการปุวิติ.
00:20:57โอเค เราก็จะได้ยังไม่จบนะ Vget.
00:21:02พึ่งจะได้ VB มา.
00:21:06We get VB ตอนนี้ต้องเปลี่ยนนะ
00:21:20เปลี่ยนแล้วไม่ใช่ V ๆ แล้ว V ห้อย B เนี่ย
00:21:23เปลี่ยนฐานหลักมานะครับ
00:21:24พอนั้นมันก็จะได้เป็น อะไรบ้างเนี่ย
00:21:292-13 ต้องใช้ตัวนี้แทน เห็นป่ะ
00:21:35ใช้ตัวนี้แทน
00:21:40โอเค ทำได้แล้ว พอนั้นหา
00:21:44ทำได้แล้ว พอได้ VB มาเสร็จแล้ว
00:21:46เดี๋ยวเอามาคูนกับ A ก็จบแล้วเนี่ย
00:21:48เอา VB ไปคูนกับ A ตัวที่เราหามาเนี่ย
00:21:50ก็จบแล้ว ก็จะได้ตัว TV ที่เป็นเปลี่ยนฐานเป็น B พลม
00:21:55คือ metric represent TV จาก B พลม
00:22:03จะเท่ากับ A B to B พลม
00:22:06แล้วก็ VB
00:22:08โอเค แต่กี้ที่เราหามาเนี่ย
00:22:14A B to B พลม ทั้งไหร่วะ
00:22:16ลบ 3 อะไรนะดูให้หน่อย ลบ 3
00:22:20ทำไมพี่ไม่ได้ 3 วะ ลับหนึ่ง ลบ 3 อะไรนะ
00:22:28ใช่หรอ อันนี้ ลบ 3 ลบหน้า ลบ 3 ลบ 1 ลบ 6
00:22:383 25 เอามาคูนกับ VB นี่ 2 ลบ 1 3
00:22:45ก็ไม่ติดการคูนปกติ ก็คูนไม่ติดปกติ ก็จบ
00:22:52คูนไงวันลืมหมดแล้วเนี่ยคูน ไม่ได้คูนนาน
00:22:56เอาแถวคูนหลักใช่ป่ะ แถวคูนหลัก ลบ 6
00:23:05บวก บวก 1 บวก
00:23:10ลบ 18
00:23:15กูก็ว่าถูกแล้ว เล็กตัวหนึ่ง เอาแถวล่างคูนหลักนี้ 6
00:23:261-2 บวก 15 คิดเลข 7 แล้ว เห็นป่ะ สุดท้ายก็จะกลับมาเป็น ขนาด
00:23:36ขนาด 2 คล้าย ๆ กับตอนตรงนี้ เป็น R2 นะครับ
00:23:41คล้าย ๆ กับตรงนี้ เห็นป่ะ คล้าย ๆ กับตรงนี้
00:23:45อ่ะ ขอเลขหน่อย
00:23:501-17-6-23 กับท่านเลยนะ 19 เนี่ย เสร็จได้คำตอบ
00:24:03ทุกข้อมันจะเป็น pattern แบบเดียวกันหมด แต่มันต้องจำ pattern ว่าเขียนอะไรก่อนหลัง
00:24:08นะครับ ซึ่งแม่งยาวมา คือแรกก็ต้อง step 1 ก็ต้องแบบ set up ให้เรียบร้อย
00:24:15ใช่ไหม ทาน form ให้เรียบร้อย แล้วก็ linear combination หา 4 ทุกตัว
00:24:19ใช่ไหม แล้วก็ได้ทีที่มี change ฐานมาจากเป็น b-palm แล้ว
00:24:27ก็ได้ a b to b-palm มา แล้วก็ต้องมานั่ง assume แต่สมมักเขาไม่ต้อง add หรอก
00:24:31ไม่ต้อง assume เขาจะให้มานะครับ ในโจทย์อาจารย์หละ สมมักเขาจะให้มาเลย
00:24:37แต่ถ้าไม่ให้ก็ต้อง assume
00:24:43ดูข้อต่อไป ข้อต่อไปมีแก้โจทนิดนึงอันนี้ x2
00:24:51พี่พิมพิตเอง แก้หน่อยแก้เป็น x2 นะ เออ พี่พิมพิต
00:24:59พิจารณาตัวนี้นะครับ จาก r2 ไป rt เช่นเดิม
00:25:07phimatic representation เหมือนข้อเมื่อกี้เลย คำถั่งเรียวกัน
00:25:11แต่ปกติ ปกติเราจะใช้ b to b-palm ใช่ไหม
00:25:16แต่รอบนี้ให้เป็น c กับ d ว่ะ
00:25:19ซึ่ง i c ก็คือ b b 9 ของเราใช่ไหม
00:25:23i d ก็คือ b-palm ของเรา นั่นแหละ
00:25:26เพราะนั้นระวังงงสูตร
00:25:29มันเปลี่ยนชื่อทำให้เรางงเล่นนะครับ
00:25:32พวกนี้ก็จะเป็น order basic of v
00:25:37ตรงนี้จะเป็น order basic of w
00:25:45ตรงนี้จะเป็น v 1 v 2 นะครับ w 1 w 2 w 3
00:25:54ทำคล้ายคล้ายข้อที่แล้วนะครับ
00:25:57แต่อันนี้ต้องเริ่มจาก c นะ
00:25:59ใช่ปะ ต้องเริ่ม c นะครับ
00:26:00ครับ
00:26:02สเต็บหนึ่ง
00:26:03สตาร์ที่ c นะครับ
00:26:08พอเราต้องทำตัวนี้นะ
00:26:09เราต้องทำ c to d นะ
00:26:11ใช่ปะ
00:26:12ต้องเปลี่ยนฐานจาก c ไปดีนะ
00:26:14ต้องทำไอตัวนี้นะ
00:26:15ไม่ใช่ d to c นะ
00:26:17ต้องเริ่มจากตัว c นะ
00:26:19ตั้ง c แล้วก็ค่อยไป
00:26:20เช้งฐานเป็น d นะครับ
00:26:22เพราะฉะนั้น
00:26:23เริ่มจาก step 1
00:26:25ทานฟอร์มก่อน
00:26:26ทานฟอร์ม c ให้หมด
00:26:27เริ่ม c นะ
00:26:29อย่าไปเริ่ม d มานะ
00:26:30งานเข้าเลย
00:26:31เริ่มที่ c ก่อน
00:26:33ทานฟอร์มตามข้างบน
00:26:35ทานฟอร์มตามสุดข้างบน
00:26:37X1 บก X2 ได้เป็น
00:26:412
00:26:431 บก 1 นะ
00:26:451 บก 1
00:26:472 คูณ 1 ลบ 1
00:26:493 คูณ 1
00:26:51บก 5 คูณ 1
00:26:53บก 5 คูณ 1
00:26:55คิดเลข
00:26:57คิดเลข
00:26:59คิดเลข
00:27:012
00:27:0318
00:27:17ต่อต่อมา
00:27:190 บวก ลบ 1
00:27:212 คูณ 0 ลบ กับ ลบ 1
00:27:253 คูณ 0 บวก 5 คูณกับ ลบ 1
00:27:29คิดเลข
00:27:31-1
00:27:331 แล้วก็ ลบ 5
00:27:35โอเค
00:27:37ทานฟอร์มเมชั่นเรียบร้อย
00:27:39ทานฟอร์มเมชั่น
00:27:41เรียบร้อย
00:27:43สะเต็บ 2
00:27:45Linear Combination
00:27:47ใช่ไหม
00:27:53คล้ายๆ Linear Combination
00:27:552
00:27:5718
00:27:59-1
00:28:011
00:28:03-5
00:28:051
00:28:071
00:28:091
00:28:111
00:28:131
00:28:151
00:28:171
00:28:191
00:28:211
00:28:231
00:28:251
00:28:271
00:28:291
00:28:311
00:28:351
00:28:371
00:28:391
00:28:411
00:28:431
00:28:451
00:28:471
00:28:491
00:28:511
00:28:531
00:28:551
00:28:571
00:28:591
00:29:011
00:29:031
00:29:051
00:29:071
00:29:091
00:29:111
00:29:131
00:29:151
00:29:171
00:29:191
00:29:211
00:29:231
00:29:251
00:29:271
00:29:291
00:29:311
00:29:321
00:29:341
00:29:361
00:29:381
00:29:401
00:29:421
00:29:441
00:29:461
00:29:481
00:29:501
00:29:521
00:29:541
00:29:561
00:29:581
00:30:001
00:30:021
00:30:041
00:30:061
00:30:081
00:30:101
00:30:121
00:30:141
00:30:161
00:30:181
00:30:201
00:30:221
00:30:241
00:30:261
00:30:281
00:30:291
00:30:311
00:30:331
00:30:351
00:30:371
00:30:391
00:30:531
00:30:551
00:30:591
00:31:011
00:31:031
00:31:051
00:31:071
00:31:091
00:31:111
00:31:131
00:31:151
00:31:171
00:31:191
00:31:211
00:31:231
00:31:251
00:31:271
00:31:291
00:31:311
00:31:331
00:31:341
00:31:351
00:31:371
00:31:381
00:31:391
00:31:401
00:31:411
00:31:421
00:31:431
00:31:441
00:31:451
00:31:481
00:31:491
00:31:501
00:31:511
00:31:521
00:31:531
00:31:541
00:31:551
00:31:561
00:31:57หลังใหม่ คิดเลขชุดหลังใหม่ เลขชุดหลังมันเป็นไรนะ ลบ 1 1 ลบ 5
00:32:05แล้วก็สลับแถว 1-1-5 ข้างหน้ามันจะเหมือนเดิม ข้างหน้ามันจะเหมือนกัน
00:32:11แต่ตรงนี้ต้องคิดเลขใหม่
00:32:14อ่า สอง อ่า สอง ลบอ่า 1
00:32:24ลบ 5 ลบอ่า 1 ลบ 6
00:32:27อ่า 3 ลบอ่า 2
00:32:31อ่า 3 ลบ 6 ลบ 6 ลบเป็นบวก ลบสี่
00:32:38B1 is equal to 1, B2-2, B3-4.
00:32:48It's okay.
00:32:56It's okay.
00:32:58It's okay.
00:33:00Transformations ของ ตัว 1, 1.
00:33:10โดย เปลี่ยน ฐาน เป็น อะไร นะ บ้าเกียะ ฐาน เป็น...
00:33:15เมื่อกี้ เอาอะไร มาใช้ ว่า ฐาน เป็น D.
00:33:231, 1, 6.
00:33:300, 1.
00:33:46ฐาน ดีเรียบร้อย อ่ะ
00:33:51ได้ A, C to D แล้ว
00:34:00เดี๋ยวเรา Random ให้เหมือนกันแล้วกันนะ
00:34:05assume
00:34:10assume V เอาให้เหมือนกันแล้วกันนะ
00:34:12พี่เอา ง่าย ง่าย อัน 1, 0 แล้วกันนะ
00:34:14เอาเหมือนกัน อะไรก็ได้นะ
00:34:23แต่ต้องเป็น R2 นะครับ
00:34:25assume V อะไรก็ได้ขึ้นมา
00:34:40แล้วก็เอาไปเปลี่ยนฐาน B ซะ
00:34:42ครับ 1, 0, 0 เท่ากับ D 1
00:34:46อันนี้ต้องเอา B มาใช้ B คืออะไรบ้างนะ
00:34:49เอาไม่ใช่ B เราใช้ตัวอะไรนะ C
00:34:581, 1 กับ 0, 1 ต้องใช้ C
00:35:19D 1 เป็น 1
00:35:24D 2 ก็เป็น 1 เหมือนกัน
00:35:32เพราะนั้น V
00:35:36ที่มีฐานเป็น C เป็นฐานว่าเป็น C เนี่ย
00:35:39จะเท่ากับ 1, 1
00:35:43แล้วก็เข้าจบแล้วนะครับ
00:35:49แม็ตริกเร็มพรีเซนเทชั่นของตัว D
00:35:57จะเท่ากับ A, C to D
00:36:03แล้วก็ V, C
00:36:10มันทำเหมือนกันนะ pattern เดียวกันนะ
00:36:12จำแค่ pattern ว่าทำยังไงแค่นั้นเอง
00:36:14ทุกอย่างทำเหมือนกันทุกประกัน
00:36:18C to D อ่ะ
00:36:24เมื่อกี้ได้แล้วว่า C to D
00:36:26AC to D อยู่ไหนว่ะ
00:36:281, 1, 1, 1, 6, 1, 2, 4
00:36:321, 1, 1, 6, 1, 2, 4
00:36:36V, C ได้ 1, 1
00:36:38อ่ะคูลไป
00:36:40อันน่ะ
00:36:42อ่ะจดไม่ทันเหรอ
00:36:44Sorry, sorry
00:36:46V, C อ่ะ
00:36:48คูลเลขมา
00:36:58ได้สองรบหนึ่งสิบป่ะ
00:37:02ใช่ไหม
00:37:04อือนี่คืออะไร
00:37:07จดก่อน
00:37:10ไม่พี่ได้ 6 บวก 4 ว่ะ
00:37:14เออ 6 บวก ลบ 4 ว่ะ
00:37:182 ลบ 1, 2 ใช่ป่ะ
00:37:20โอเคจดก่อน
00:37:22โอเคจดก่อน
00:37:50โอเคจดก่อน
00:38:20ใช่
00:38:22ใช่
00:38:28มีโจทยากกว่อนี้แล้วอ่ะ
00:38:30บอกว่าไม่มีโจทยากกว่านี้แล้วหรอ
00:38:32อยากได้ยากกว่านี้
00:38:34อืม
00:38:36me
00:38:38I
00:38:40I
00:38:42I
00:38:44I
00:38:46I
00:38:48I
00:38:50I
00:38:52I
00:38:54I
00:38:56I
00:38:58I
00:39:00I
00:39:02I
00:39:04I
00:39:06I
00:39:08I
00:39:10I
00:39:14I
00:39:16I
00:39:18I
00:39:20I
00:39:22I
00:39:24I
00:39:26I
00:39:28I
00:39:30I
00:39:32I
00:39:34I
00:39:36I
00:39:38I
00:39:40I
00:39:42I
00:39:44I
00:39:46I
00:39:48I
00:39:50I
00:39:52I
00:39:54I
00:39:56I
00:39:58I
00:40:00I
00:40:02I
00:40:04I
00:40:06I
00:40:08I
00:40:10I
00:40:12I
00:40:14I
00:40:16I
00:40:18I
00:40:20I
00:40:22I
00:40:26I
00:40:28I
00:40:30I
00:40:32I
00:40:34I
00:40:36I
00:40:38I
00:40:40I
00:40:42I
00:40:44I
00:40:46I
00:40:48I
00:40:50I
00:40:52I
00:40:54I
00:40:56I
00:40:58I
00:41:00I
00:41:02I
00:41:04I
00:41:06I
00:41:08I
00:41:10I
00:41:12I
00:41:14I
00:41:16I
00:41:18I
00:41:20I
00:41:22I
00:41:24I
00:41:26I
00:41:28I
00:41:30I
00:41:32I
00:41:34I
00:41:36I
00:41:38I
00:41:42I
00:41:44I
00:41:46I
00:41:48I
00:41:50I
00:41:52I
00:41:54I
00:41:56I
00:41:58I
00:42:00I
00:42:02I
00:42:04I
00:42:06I
00:42:08I
00:42:10I
00:42:12I
00:42:14I
00:42:16I
00:42:18I
00:42:20I
00:42:22I
00:42:24I
00:42:26I
00:42:28I
00:42:30I
00:42:32I
00:42:34I
00:42:36I
00:42:46I
00:42:48I
00:42:50I
00:42:54I
00:42:56I
00:42:58I
00:43:00I
00:43:02I
00:43:04I
00:43:06I
00:43:08I
00:43:10I
00:43:12I
00:43:14I
00:43:16I
00:43:18I
00:43:20I
00:43:22I
00:43:24I
00:43:26I
00:43:28I
00:43:48I
00:43:50I
00:43:52I
00:43:54I
00:43:56I
00:43:58I
00:44:00I
00:44:02I
00:44:04I
00:44:06I
00:44:08I
00:44:10I
00:44:12I
00:44:14I
00:44:16I
00:44:18I
00:44:20I
00:44:22I
00:44:24I
00:44:26I
00:44:28I
00:44:30I
00:44:32I
00:44:34I
00:44:36I
00:44:38I
00:44:40I
00:44:42I
00:44:44I
00:44:46I
00:44:48I
00:44:50I
00:44:52I
00:44:54I
00:44:56I
00:44:58I
00:45:00I
00:45:02I
00:45:04I
00:45:06I
00:45:08I
00:45:10I
00:45:12I
00:45:14I
00:45:16I
00:45:18I
00:45:20I
00:45:22I
00:45:24I
00:45:26I
00:45:28I
00:45:30I
00:45:32I
00:45:34I
00:45:36I
00:45:38I
00:45:40I
00:45:42I
00:45:44I
00:45:46I
00:45:48I
00:45:50I
00:45:52I
00:45:54I
00:45:56I
00:45:58I
00:46:00I
00:46:02I
00:46:04I
00:46:06I
00:46:08I
00:46:10I
00:46:12I
00:46:14I
00:46:16I
00:46:18I
00:46:20I
00:46:22I
00:46:24I
00:46:26I
00:46:28I
00:46:30I
00:46:32I
00:46:34I
00:46:36I
00:46:38I
00:46:40I
00:46:42I
00:46:44I
00:46:46I
00:46:48I
00:46:50I
00:46:52I
00:46:54I
00:46:56I
00:46:58I
00:47:00I
00:47:02I
00:47:04I
00:47:06I
00:47:08I
00:47:10I
00:47:12I
00:47:14I
00:47:16I
00:47:18I
00:47:20I
00:47:22I
00:47:24I
00:47:26I
00:47:28I
00:47:30I
00:47:32I
00:47:34I
00:47:36I
00:47:38I
00:47:40I
00:47:42I
00:47:44I
00:47:46I
00:47:48I
00:47:50I
00:47:52I
00:47:54I
00:47:56I
00:47:58I
00:48:00I
00:48:02I
00:48:04I
00:48:06I
00:48:08I
00:48:10in
00:48:12W
00:48:18I
00:48:20I
00:48:22I
00:48:24I
00:48:26I
00:48:28I
00:48:30I
00:48:32I
00:48:34I
00:48:36by
00:48:40and
00:48:42I
00:48:44don't
00:48:46the
00:48:48the
00:48:50the
00:48:52the
00:48:54the
00:48:56the
00:48:58the
00:49:00the
00:49:02the
00:49:04the
00:49:06the
00:49:08the
00:49:10the
00:49:14the
00:49:15the
00:49:32the
00:49:34the
00:49:36the
00:49:38นี่ต้องทีใหญ่ว่ะ พี่กดอัดยังวะ ครับหนึ่ง อันแล้ว อันแล้ว คือ นัน ลิตี้ นัน ลิตี้ ที
00:49:58นะคะ เดี๋ยวเราจะลิ้งกันเรื่องเก่า นิดนึง นะ เปิดหน้าต่อไป ครับ
00:50:08พอนั้น ถ้า เราจะคิด เรื่องนี้จริง ๆ เราใช้เรื่องเก่า เข้ามาช่วยได้ เรื่องที่เราสอบไปแล้ว นะครับ ทีสดีบทก็คือตรงนี้แหละ มันจะช่วยเรา นะครับ เห็นไหม อันแรกนะครับ
00:50:22Rank T ใช้ที่สดีบทเรื่องเก่านะ Rank T มันคือแรงของ A นั่นแหละ
00:50:30Rank T ของ Matic 3 ประสิทธิ์ จำแรงด้วยป่ะ ที่ทำเป็นขั้นบันใด ที่แก่เทียงก็ชัด GPT อ่ะ มันคือจำนวนขั้นบันใด ใช่ไหม
00:50:40ของนิดหนึ่งจะได้ไม่งง จำนวนขั้นบันใดที่มี 1 หลีด ที่มี 1 หลีด อยู่
00:50:48ที่มี 1 ด้านหน้า
00:51:10ของ Free Variable จำได้ใช่ไหม ที่มันแบบ ที่ไม่มี 1 หลีด อ่ะ ก็คือ
00:51:21ตัว Free Variable อย่างเช่นอย่างนี้ สมมุติเป็น 1 1
00:51:40อย่างนี้ก็คือจะมีตัวหลักหนึ่งอย่างนี้ใช่ไหม ตัวนี้ขึ้นนันรีตรี เขาใจนะ จำนวนหลักที่ไม่มี 1 หลีด เป็นจำนวนของ Free Variable ว่าขึ้น 1
00:51:54พีสูตร ไม่ต้องพีสูตรแล้ว เราจำเลย ง่ายกว่า
00:52:04เดี๋ยวมันจะถามทีเดียวนะ ถามทุกคนถามเลย
00:52:12ต่อมาดูตรงนี้ ดอกจานตรงนี้อีกงานหนึ่ง พีสูตร ไม่ต้องพีสูตร แล้วนะ
00:52:18Dim V Dimension ของ V เนี่ย บ้านเราบทก่าวเรียก N ไว้
00:52:25Dimension ของ V คือ N
00:52:27N ถ้ากัด Dim ของ Colonel T คือ Nunality ที่เราบอกไปเมื่อกี้
00:52:31Nunality ของ A มันคือ Nunality ของ A บวกกับ Rank
00:52:36กับ Rank A นั่นแหละ มันคือเรื่องเก่า อันนี้เรื่องเก่า
00:52:40เอาเรื่องเก่าเข้ามา เขียนเป็นเหมือนบทใหม่
00:52:45N ก็คือ Dim V จำนวน จำนวนตัวแปร N
00:52:54นะครับ ซึ่ง N เท่ากับ น่ะ ตัวนี้เนี่ย
00:53:01Nunality A บวก Rank A นะครับ
00:53:04เขาบอกว่ามีอีกทิศดีหนึ่ง หนอกจันตรงนี้นิดนึงที่ใช้
00:53:08เอาเฉพาะตรงที่ใช้ สูตรนี้สำหรับ รู้ Rank T
00:53:15Rue N หา Nunality ได้
00:53:24Nunality T กับ Nunality A เหมือนกันเนี่ย มันคือตัวเดียวกัน
00:53:36Nunality T Nunality A แรงที่แรง A เท่ากันนะครับ เหมือนกัน
00:53:40ふน rivalry นเดียวเรามาลองรองธรรมโจดดู
00:53:47คุณจะถามทุกอย่างลัวมาแบบนี้ และ ในห้องสอบจะเป็นแบบนี้เลย
00:53:49ค้อ สอบอ่ะ 100% ถ้าไม่อ่อม เพàoค้าลุมทิ้งได้เลย
00:53:55ออกแนนอนเป็นแผงเนี่ย ก็จะถามทุกอย่างอ่าทีเดียว
00:54:015 อย่างนะครับ คำ ไร ลาย อย่างในข้ autres Cleo
00:54:05เดียว นะครับ อนนี้มีแก้นิดนึง อันนี้ต้อง RT
00:54:07First of all, I need to be Rt.
00:54:13This is the DIMM of Rt.
00:54:18Let t transform from Rt to Rt.
00:54:23To be W.
00:54:25Transform from Rt to Rt.
00:54:29find the basis of kernel t
00:54:33find the basis of kernel t
00:54:35basis of kernel t
00:54:37none of the t
00:54:39a
00:54:41length t
00:54:43and dimension of rt
00:54:45dimension of rt
00:54:47dimension of rt
00:54:49dimension of v
00:54:51dim v
00:54:53dim v
00:54:55n
00:54:57y
00:54:59y
00:55:01y
00:55:03y
00:55:05y
00:55:07y
00:55:09y
00:55:11y
00:55:13y
00:55:15y
00:55:17y
00:55:19y
00:55:21y
00:55:23y
00:55:25kernel t we have to look at kernel
00:55:29kernel
00:55:35kernel
00:55:37xyz
00:55:39we have to look at r3
00:55:43transformation
00:55:45xyz
00:55:47This is quite something that is important to be 0-0-0.
00:55:53But the format will be 0 and there will be 0.
00:56:00I
00:56:05I
00:56:07I
00:56:09I
00:56:11I
00:56:13I
00:56:15I
00:56:17I
00:56:19I
00:56:21I
00:56:23I
00:56:25I
00:56:27I
00:56:29as
00:56:31as
00:56:33be
00:56:35a
00:56:37a
00:56:39a
00:56:41a
00:56:430
00:56:45a
00:56:47a
00:56:49a
00:56:51a
00:56:5312
00:56:550 1 2 1 3 x ก็มี 3 ตัว x y z ตัวแปล 3 ตัว เท่ากับ 0 สูง สูง
00:57:10อ่ะ ลุย a แต่งเติม 0 ไป หา kernel มา หา x y z มา
00:57:21ทํา echelon เหมือนเดิมนะครับ
00:57:30ไอ้ แต่งเติมสูตร บางที เขาก็ไม่เขียนนะ เขาก็เขียนแค่มาติก a ไปเลยอาจารย์นะ เขาก็เขียดเขียน
00:57:37อ่ะ ลุย a ชั่น ให้พี่หน่อย
00:57:52ทุกคน ลุย a ชั่น ครับ ใน 1 แล้วนะ เปลี่ยน 2 แถว a 2 ลบ a 3
00:58:08เปลี่ยนแถว a 3 ลบกับ 2 a 1 อันนี้ต้อง a 1 สิ
00:58:22อ่ะ สูนย์ ไม่สูนย์ดี a 3 ลบ 2 a 1
00:58:38ลบ 1 a 3 3 3 ลบ 4 ลบหนึ่งเหมือนกัน
00:58:46เอา a 3 ลบ a 2 เลย ต้องคิดมาก หายหมด
00:58:52หายหมด
00:59:06-a 2 ไป
00:59:12i
00:59:22Okay, DIMM, DIMM of the Kernel, what do you want to do?
00:59:40I forgot about it, everyone. DIMM of the Kernel, what do you want to do?
00:59:44DIMM of the Kernel, what do you want to do?
00:59:48DIMM of the Kernel, what do you want to do?
00:59:54DIMM of the Kernel, what do you want to do?
01:00:00DIMM of the Kernel.
01:00:06Oh.
01:00:31นะครับ
01:00:41ตรงนี้นะ ดิมของ Kernel A คือ Nunality A คือ Nunality T
01:00:47เรียกอะไรก็ได้ Nunality A Nunality T ได้หมดนะครับ ได้หนึ่งแล้ว
01:00:51โอเค อย่างนี้ได้ Nunality มาด้วยนะครับ อันนี้ก็ได้คำสั่งนี้มาด้วย
01:00:59ได้คำสั่งข้อ 3 มาด้วยเห็นปะ นะครับ หา Basis of Kernel T ก็จะได้คำสั่งข้อของ Nunality T มาด้วย
01:01:07นะครับ
01:01:11โอเค อ่ะ ต่อไปหา Basis ให้มันจบนะครับ
01:01:18ฐานเริ่ม
01:01:20X
01:01:22บวก Y บวก 2 Z เท่ากับ 0 สรรมการที่ 1
01:01:28Y บวก Z เท่ากับ 0 สรรมการที่ 2
01:01:34ฟี แวลิอเบล คืออะไรนะ ตัว Z ปะ ให้ Z
01:01:39เล็ด Z เป็น T
01:01:42พอฉะนั้น ถ้า Z เป็น T Y เป็นอะไร Y เป็น ลบ T ไหม
01:01:52ใช่ไหม ถ้า Z เป็น T เนี่ย Y เป็น ลบ T
01:01:55ถ้า Z เป็น T Y เป็น ลบ T X ก็เป็น ลบ T เหมือนกัน
01:01:59พอนั้น ที่จะได้ Kernel แล้ว เขียน เขียนต้องไหนดีวะ
01:02:08เขียนต้องนี้แล้วกัน
01:02:10ที่จะได้ Kernel T เท่ากับ 3 อย่างก็คือจะมี T ลบ T แล้วก็ T
01:02:21นี่คือ Kernel มัน
01:02:27แล้วก็ ตามารถดึง T ออกมาได้
01:02:32ลบ T ลบ T ลบ T
01:02:35ดึง T ก็เป็น ลบหนึ่ง ลบหนึ่ง หนึ่ง
01:02:38เนี่ย เราก็จะเห็นแล้วว่า มิติของ Kernel เนี่ย
01:02:41มันก็จะมีค่า ถ้ากับไอ้ตรง Free Variable อะไร ใช่ปะ
01:02:44นี่คือ Dim นี่คือ Dim มันไง Dimension มัน
01:02:47ของ Kernel T เนี่ย คือ 1
01:02:49ก็คือ 1 แถว ไม่ให้ 1 แถว 1 หลับ
01:02:52นี่ก็คือ Dim มันจะเช็คตรงนี้ก็ได้
01:02:54นี่คือ Dim ของ Kernel
01:02:56นะครับ Dim ของ Kernel T
01:02:59ก็คือ Dim ของ Kernel A นะ เหมือนกัน
01:03:02ได้ 1
01:03:08ปรับ 1
01:03:09อ้าว พี่เขียนผิดว่า มันต้อง Dim ของ Kernel T ว่า ไม่ใช่ A
01:03:21ตอนนั้น Littier อ่ะ ของ A ได้
01:03:24ดิมของ Kernel T ถ้ากันน Littier A ถ้ากันน Littier T ถ้ากัน 1
01:03:29อ่ะ เช็คตรงนี้ก็ได้ ไม่ต้องเท่ากัน ตรงนี้ก็ตรงนี้ต้องเท่ากัน
01:03:34เสร็จไป ทำสั่ง 1 นะคะ เพราะฉะนั้น Basis
01:03:42of Kernel T ก็คือตัวนี้แหละ
01:03:48เฉพาะตัวเลขนะ Basis จะตอบเฉพาะตัวเลข
01:03:51Basit ก็จะเป็น ลบ 1 ลบ 1 1 ไม่เอาตัว T มา
01:03:56เสร็จข้อที่ 1 กับข้อที่ 3 ไปพร้อมกันเลย
01:04:132
01:04:17เดี๋ยวต่อไปมันจะมาคู่กันเหมือนกัน Basis of Lank T กับ Lank T มาคู่กัน
01:04:23นะคะ ต่อไปหา Basis
01:04:25Basis of Lank T กับ Lank T หรือว่า Lank A เนี่ยมาคู่กัน
01:04:40เวลาทำก็คือ ทาน Formation V ต้องได้ W
01:04:46ก็คือ ค่าเล้นทั้งหมดนะครับ ทาน Formation V มาต้องได้ W ทั้งหมด
01:04:51ซึ่งต้องหาว่า W มีอะไรบ้างนั่นเอง นะครับ เริ่มต้นนะ
01:04:58Range T จะเท่ากับ
01:05:01B1 B2 B3 แล้วกัน เป็นสมาชิคของ R3 โดยที่
01:05:10นะครับ A มันเป็น AX เท่ากับ B นะ AX 1 X 2 X 3 เท่ากับ B B ก็มี B1 B2 B3
01:05:23AX เท่ากับ B
01:05:32มาติก A ก็อันเดิมอ่ะ
01:05:36มาติก A อะไรนะ ไปดูอันเดิมให้หน่อยดิ
01:05:391 1 2 ว่ะ
01:05:411 0 1 แล้วอีก
01:05:432 1 3 X ก็จะมี X 1 X 2 X 3
01:05:48เท่ากับ B ก็มี B1 B2 B3
01:05:54แล้วก็อันนี้ต้องเป็น A แต่งเติม B แทน
01:05:59แตกต่างกันแค่นี้เอง อันที่แล้ว A แต่งเติม 0 อันนี้จะเป็น A แต่งเติม B
01:06:05อันนี้ทำคล้ายคลายสแปน อันน่ะ แต่งเติมไป
01:06:14หา B มา ได้หา X มา หา X 1 X 2 X 3 มา จะติดเทิม B เต็มไปหมดเลยนะครับ
01:06:25นั่งไล่ไปลูก มันก็ทำคลายคลายเดิมแก่น่ะ ใช่ปะ A 2 ลบ A 1
01:06:36A 2 A 3 ลบ 2 A 1 ทำคลายคลายเดิมเมื่อกี้เลย
01:06:42แต่มันต้องคิดเลขเพิ่ม
01:06:46ขยายเลยครับ ครับผม
01:07:16เรื่องนี้แม่งใหญ่มันเหนื่อยหน่อย เพราะว่าพี่เรียนทีเดียวง่ะ รวมแม่งทุกอย่างเลย
01:07:33เพราะว่ามันทำพร้อม พร้อมกันได้
01:07:37รวมนี้สอบ 3 ชั่วโมงก็น่าจะพอนะ ข้อใหญ่มันก็มีข้อนี้แหละ ที่เป็นข้อใหญ่เธอปะกับทันฟอร์เมชั่น แล้วก็แม็ตริกแล้วพริเซ็นต
01:07:48โอ้โห ถ้าได้โมท ถ้าได้สอบหังที่ 2 ได้เยอะนี่คุมนะ
01:08:03โมแรกได้เท่าไหร่น่ะ ได้มะ พดโหท โมสอง บินไปแล้ว
01:08:14ยับ
01:08:17พูดแล้วแม่งเจ็บว่า
01:08:22พี่เซลตอน 4,300 น่ะไว้
01:08:26ยอดสุดเลย history พี่ไปเปิดดูว่าแม่งหัวลูกสอนกดเซล 4,300 ที่สุดเลยยอด
01:08:32แล้วก็ลง giants คะ หาย
01:08:35ก็ไม่ได้ถือ พี่เป็นคนไม่ชอบถือยาทน์อยู่อะไร
01:08:57อะไรไม่รู้
01:08:59พี่ให้ดูเทศ historie พี่
01:09:02this is new
01:09:08look at history
01:09:13there is a red
01:09:20not spam lord
01:09:22I can play
01:09:24I can play
01:09:26I can play
01:09:28I can play
01:09:30this is called
01:09:32they have 800
01:09:37eight
01:09:40of course
01:09:41yes
01:09:42yeah
01:09:44no
01:09:45Oh
01:09:47Yeah
01:09:49Oh
01:09:55I
01:09:57I
01:09:59I
01:10:01I
01:10:03I
01:10:05I
01:10:07I
01:10:09I
01:10:11I
01:10:13I
01:10:15I
01:10:17I
01:10:19I
01:10:21I
01:10:23I
01:10:25I
01:10:27I
01:10:29I
01:10:31I
01:10:33I
01:10:35I
01:10:39I
01:10:41I
01:10:43I
01:10:45I
01:10:47I
01:10:49I
01:10:51I
01:10:53I
01:10:55I
01:10:57I
01:10:59I
01:11:01I
01:11:03I
01:11:05I
01:11:07I
01:11:09I
01:11:11I
01:11:13I
01:11:15I
01:11:17I
01:11:19I
01:11:21I
01:11:23I
01:11:25I
01:11:29I
01:11:31I
01:11:33I
01:11:35I
01:11:37I
01:11:39I
01:11:41I
01:11:43I
01:11:45I
01:11:47I
01:11:49I
01:11:51I
01:11:53I
01:11:55I
01:11:57I
01:11:59I
01:12:01I
01:12:03I
01:12:05I
01:12:07I
01:12:09I
01:12:11I
01:12:13I
01:12:15I
01:12:17I
01:12:19I
01:12:21I
01:12:23I
01:12:25I
01:12:27I
01:12:29I
01:12:31I
01:12:33I
01:12:35I
01:12:37I
01:12:39I
01:12:41I
01:12:44I
01:12:45I
01:12:47I
01:12:49I
01:12:51I
01:12:53I
01:12:55I
01:12:57,
01:12:58I
01:12:59I
01:13:01I
01:13:03I
01:13:05I
01:13:07I
01:13:08.
01:13:12.
01:13:17.
01:13:22.
01:13:24.
01:13:30.
01:13:34.
01:13:35.
01:13:37.
01:13:37.
01:13:38RT
01:13:41It's a dream of RT
01:13:42to be done with the right
01:13:43So it's 2
01:13:442
01:13:452
01:13:452
01:13:452
01:13:452
01:13:462
01:13:472
01:13:472
01:13:482
01:13:492
01:13:502
01:13:512
01:13:522
01:13:532
01:13:542
01:13:552
01:13:562
01:13:572
01:13:582
01:13:592
01:14:002
01:14:012
01:14:023
01:14:032
01:14:043
01:14:053
01:14:063
01:14:073
01:14:08จริง จริง มัน ต้อง เป็น อะไร นะ
01:14:13ทำไม มัน แปลก แปลก ว่ะ
01:14:38นี่ มัน ต้อง แก้ แต่ อัน ข้างล่าง เนี่ย ได้ ป่ะ ก็ คือ B3 B3 ลบ B1 ลบ B2 แก้ แต่ อัน ข้างล่าง เนี่ย
01:14:56B3 ลบ B1 ลบ B2 มี ค่า เท่ากับ 0 หมด เลย ใช่ ประแทว นี้
01:15:05B Variable คือ อะไร นะ
01:15:11Let
01:15:14Let B3 เท่ากับ T
01:15:17แก้ แค่ แถว ร่าง ก็ พอ
01:15:23Let B3 เท่ากับ T ไป
01:15:28แล้วก็ Let B2 เท่ากับ C ไปด้วย ก็ได้ อ่ะ
01:15:38B1 จะ เท่ากับ ลบ C บวก T
01:15:45แก้ แถว ร่าง พอ นะ
01:15:51แต่ จริง อ่ะ ปกติ มัน ควร ต้อง เป็น Free Variable ตัว เดียว อ่ะ แต่ มัน ได้ มัน ดัน ได้ Dimension มา 2 เนี่ย
01:15:59เดี๋ยว มันก็ ต้อง แย่ เป็น 2 เสร็จ พอ นั้น ต้อง กำหนด Free Variable สอง ตัว ไม่งั้น แก้ ออกมา ไม่ตรง
01:16:13มี 1 เท่ากัน ลบ C บวก T นะ เพราะนั้น เราจะได้ Range T ออกมา
01:16:21เป็น T ลบ C
01:16:264 แล้วก็ T ต้อง มี 2 ตัว ไม่งั้น มัน ไม่ได้ 2 Dimension
01:16:31เราก็จะ แย่ ออกมา เป็น T 0 T แย่ ออกมา บวก กับ ลบ C 00
01:16:38มัน ถึง จะ ได้ เป็น 2 อัน นะครับ
01:16:42ลบ C 40
01:16:46อันนี้ ก็จะ กลายเป็น ดึง ที ออก นะ 1
01:16:530 1
01:16:56ลบ 1 1 0
01:17:01เพราะเนี่ย เพราะอะไร รู้ป่ะ เพราะมัน เป็น 2 สรรมการ นะ แต่ 3 ตัว แปล
01:17:09มัน มัน ไม่ น่าจะ แก้ กัน ได้ นะครับ มัน เลย ต้อง จำ เป็น ต้อง แบบ ตำ หนด เป็น 2 ตัว แปลบ เลย เพราะ ดู เรา เรา ดู จาก ตรงนี้ ด้วย แหละ ว่า ดิม มัน ต้อง ได้ 2
01:17:18มัน ต้อง ได้ 2 ชุด นะครับ มัน ก็ ต้อง มี การ ทำ free variable 2 ตัว นะครับ พอ นั้น เรา ตอบ แล้ว
01:17:28เดี๋ยว ตอบ ตาม แพทเทอร์ นะ จาก นะ แรน ที จะ เท่ากับ สแปลน ก็ คือ แพร ทั่ว เหมือน คิด การ แพร ทั่ว แพร ทั่ว บน 1 0 1
01:17:42ลบ 1 1 0 ตรงนี้ มัน ก็ คือ ได้ ดิม นะ แหละ นะครับ basis of rt จะ เท่ากับ ตัว นี้ แหละ 1 0 1
01:17:56ลบ 1 1 0
01:18:01เสร็จ ก็ คือ เนี่ย ได้ ดิม เป็น 2 นะ
01:18:04ง่วง แล้วว่ะ เลิก มั้ย
01:18:13เออ เดี๋ยว ค่อย กลับ มา สอน ต่อ ก็ ได้ ยังไง ก็ ทัน
01:18:18Length T บวก Nullity T
01:18:22น่ะ มัน คือ N เท่ากับ Rength T คือ ถ้า ไหร่ นะ 2
01:18:28Nullity T เป็น 1 มันจะ ได้ จำนวน ตัว แปร ถ้ากับ 3
01:18:31ก็ ถูก แล้ว มี 3 ตัว แปร
01:18:34ร altogether
01:18:38อันนี้ ก็คือ คำ ถาม สุดท้าย จบ
01:18:41це เท�ally กลับมา สอน ต่อ
01:18:44นอต ที่ เหลือ เหมือน ก็ เรื่อง นี้ แหล่ เรื่อง นี้ ไป นี้ ไป นี้ เหลื้อย
01:18:48แล้ว เป็น เรื่อง ให่ ที่ เรา ต้อง ทำ
01:18:59อาจารย์พึ้ง สอน ถึง ใช่ไหม ร่ะ
01:19:01เจอ เพริง ถึง แล้ว
01:19:04Okay, let's do it again.
01:19:08Let's do it again.
01:19:10Okay, let's do it again.
Be the first to comment
Add your comment

Recommended