ราชินีเบียทริกซ์สละพระราชบัลลังก์ เปิดทางให้กษัตริย์รุ่นใหม่ขึ้นครองราชย์

ราชินีเบียทริกซ์สละพระราชบัลลังก์ เปิดทางให้กษัตริย์รุ่นใหม่ขึ้นครองราชย์

รายการ Go Global ประจำวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2556
สมเด็จพระบรมราชินีเบียทริกซ์แห่งเนเธอร์แลนด์ทรงประกาศสละพระราชบัลลังก์ เพื่อปูทางไปสู่การขึ้นครองราชย์ของมกุฏราชกุมารวิลเล็ม อเล็กซานเดอร์ ผู้เป็นโอรส โดยการเปลี่ยนผ่านอำนาจนี้จะมีขึ้นอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 เมษายนนี้ ทั้งนี้ พระราชินีเบียทริกซ์ซึ่งทรงครองราชย์มานานกว่า 3 ทศวรรษทรงตรัสว่า ถึงเวลาแล้วที่เนเธอร์แลนด์ต้องมีกษัตริย์พระองค์ใหม่ที่เป็นคนรุ่นใหม่ นับว่าเป็นส่วนหนึ่งของการปรับตัวของสถาบันกษัตริย์ของเนเธอร์แลนด์เพือให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกปัจจุบัน การสละราชบัลลังก์ครั้งนี้ได้รับการตอบสนองอย่างดีจากชาวดัทช์

ญี่ปุ่นกำหนดงบประมาณประเทศใหม่ที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนๆ เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในการเพิ่มงบประมาณด้านการป้องกันประเทศ แม้ว่ารัฐธรรมนูญของญี่ปุ่นจะห้ามมิให้มีการพัฒนากองทัพก็ตาม ทั้งนี้ นายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นเห็นว่า ความขัดแย้งที่มีกับจีนโดยเฉพาะต่อการอ้างกรรมสิทธิ์ร่วมเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออก เป็นแรงผลักดันให้ญี่ปุ่นต้องหันมายกระดับการพัฒนาด้านความมั่นคง และผลดีอีกประการหนึ่งก็คือ การใช้จ่ายเงินงบประมาณนี้จะมีส่วนช่วยกระตุ้นระบบเศรษฐกิจของญี่ปุ่นที่ถดถอยมานาน

เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สำคัญของสิงคโปร์อีกครั้งเมื่อพรรคฝ่านค้าน คือพรรคแรงงานได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งซ่อมที่สิงคโปร์เมื่อวันเสาร์ที่แล้ว สามารถได้รับชัยชนะเหนือพรรครัฐบาลหรือพรรคกิจสังคมที่เป็นพรรคที่มีอิทธิพลที่สุดและได้จัดตั้งรัฐบาลมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่สิงคโปร์ประกาศเอกราชออกจากมาเลเซียตั้งแต่ปี ค.ศ.1965 สาเหตุของความพ่ายแพ้ของพรรครัฐบาลน่าจะมาจากความไม่สามารถในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในเรื่องการลดช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจน นอกจากนี้ชาวสิงคโปร์ยังรู้สึกอึดอัดมากขึ้นต่อการปกครองแบบระบอบพรรคการเมืองเดียวที่ถูกครอบงำโดยตระกูลลี