กาฬสินธุ์สุดเครียด คนแห่ทะลักกลับ หวั่นคุมโควิดไม่อยู่

กาฬสินธุ์สุดเครียด คนแห่ทะลักกลับ หวั่นคุมโควิดไม่อยู่
.
เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2563 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งว่า ท่ามกลางสถานการณ์ภาวะฉุกเฉิน รัฐบาลประกาศห้ามมิให้ประชาชนทั่วประเทศออกจากบ้านระหว่างเวลา 22.00 - 04.00 น. ทำให้มีประชาชนเดินทางกลับจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะประชาชนที่อาศัยในเขต กรุงเทพและปริมณฑล มีจำนวนถึง 15,802 คน ซึ่งทางจังหวัดได้ขอความร่วมมือให้ประชาชนที่เดินทางกลับมาทำการกักตัวเอง 14 วัน เพื่อเป็นการป้องกันโรค ส่วนประชาชนให้อยู่บ้าน เพื่อหยุดเชื้อ หลายคนมองว่าคำแนะนำต่างๆ ยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ประชาชนมั่นใจว่าปลอดภัยจากโรคโควิด-19
.
นายประดิษฐ์ ภูโยฤทธิ์ อายุ 61 ปี เลขที่ 55 ม.13 ชาวบ้านดงเมือง ตำบลลำพาน อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนพอใจในแผนการป้องกันและฟังการแถลงจากผู้ว่าราชการจังหวัดในโซเชียลเวลา 16.00 น.ทุกวัน แต่รู้สึกยังไม่เพียงพอ เพราะยังมีคนที่ไม่มีวินัย และในคนบางคนในกลุ่มที่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพและปริมณฑล ที่ต้องไปรายงานตัวเพื่อรับการกักตัวเองก็ยังไม่ร่วมมือ และในอีกกลุ่มจังหวัดข้างเคียงที่เดินทางข้ามจังหวัดไปมาอะไรจะรับรองได้ว่าบุคคลนั้นไม่ติดเชื้อโรคโควิด-19
.
“คำถามพวกนี้ทำให้ชาวบ้านหวั่นกลัวเพราะไม่รู้ว่าใครที่ติดเชื้อโรคโควิด19 ซึ่งหากให้เปรียบโรคนี้ในเชิงไสยศาสตร์ความเชื่อ ก็คงไม่ต่างจากพวกผีกระสือ-ผีปอบ ที่สืบเชื้อสายทางเสมหะ คนที่เป็นก็จะถูกกัดกินปอด ตับ ไต ไส้พุงจนตาย มันจึงเป็นโรคที่มองไม่เห็นทุกคนในหมู่บ้านรู้สึกวิตกกังวล กลัวมากไม่รู้จะทำอย่างไร ทำได้แค่อยู่บ้านไปวันๆแต่ขาดความมั่นใจในการป้องกัน ทำไมถึงไม่จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ให้ประชาชนได้อุ่นใจในการป้องกันตนเองได้ใช้บ้าง”นายประดิษฐ์ กล่าว
.
นายประดิษฐ์ ระบุว่า ยิ่งขณะนี้ตนไม่มั่นใจในกระบวนการกักตัวว่าจะได้ผลอย่างแท้จริงหรือไม่ เพราะข้อเท็จจริงนั้นเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจากศูนย์โควิดจังหวัด ในแต่ละอำเภอ ได้ลงทำงานจริง เก็บข้อมูลจริงตามหมู่บ้าน แต่เกรงว่าเจ้าหน้าที่ทำงานไม่ทั่วถึง และรู้สึกสงสารเจ้าหน้าที่เช่นกันเพราะไม่รู้ว่าจะซวยไปติดเชื้อโรคโควิค-19 จากที่ไหนหรือจากใคร จึงอยากให้หน่วยงานผู้รับผิดชอบช่วยเร่งดำเนินการให้ประชาชนได้เกิดความมั่นใจและมีกำลังใจในการระงับยับยั้งโรคนี้ด้วย
สำหรับจังหวัดกาฬสินธุ์มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ 3 คน ผู้ป่วยเข้าข่ายสอบสวนโรค สะสม 92 คน อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 3 คน สำหรับอาการของผู้ป่วยติดเชื้อทั้ง 3 คน อยู่ในเกณฑ์ปกติไม่มีอาการปอดอักเสบ แต่ยังคงให้เฝ้าระวังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อรอดูอาการ ให้แน่ใจก่อนให้กลับบ้าน