สื่อดังมะกันตีกลับกระแส “แฮร์รี-เมแกน” วิจารณ์แรงหาผลประโยชน์-เสแสร้ง!!! (กระแสเรื่องดัง No.149)
- 4 ปีที่แล้ว
สื่อดังมะกันตีกลับกระแส “แฮร์รี-เมแกน” วิจารณ์แรงหาผลประโยชน์-เสแสร้ง!!! (กระแสเรื่องดัง No.149)
เดลีเมล์ รายงานกระแสตีกลับของสื่ออเมริกันหลายสำนัก หลังเกิดกรณี “เม็กซิต” ที่ เจ้าชายแฮร์รี และ เมแกน พระชายา ทรงถอดถอนพระองค์จากการเป็นสมาชิกระดับสูงของ ราชวงศ์อังกฤษ และเสด็จข้ามน้ำข้ามทะเลไปใช้ชีวิตส่วนพระองค์ในแคนาดา เมื่อปลายเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนสื่อฝั่งสหรัฐแห่รายงานข่าวแสดงความเห็นใจดยุกและดัชเชสแห่งซัสเส็กซ์ว่าคงทนอยู่ภายใต้แรงกดดันของราชธรรมเนียม กฎระเบียบ และการถูกจับตาตลอดเวลา รวมถึงยกย่องชื่นชมว่าทั้งสองพระองค์ทรงติดดิน ประสงค์จะอยู่อย่างสงบเป็นส่วนตัว และทรงเป็นเชื้อพระวงศ์ยุคใหม่ที่เห็นความสำคัญอย่างยิ่งกับสิ่งแวดล้อม
มอรีน คัลลาฮาน คอลัมนิสต์แห่ง นิวยอร์กโพสต์ เขียนบทความโจมตีเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน ภายหลังทั้งคู่ปรากฏตัวและกล่าวสุนทรพจน์ในงานประชุม เจพีมอร์แกน อัลเทอร์เนทีฟ อินเวสต์เมน ซัมมิต ของ เจพีมอร์แกนเชส ธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐที่เกี่ยวเนื่องกับการจุดชนวนก่อวิกฤติเศรษฐกิจโลกในปี 2551
โดยคัลลาฮานเรียกเจ้าชายแฮร์รีและเมแกนว่าเป็นผู้ชอบฉกฉวยหาผลประโยชน์ใส่ตัว ใช้ฐานันดรศักดิ์สร้างรายได้โดยไม่ได้ปฏิบัติราชกิจ และใช้ชีวิตอย่างเสแสร้งว่าให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ในขณะที่เดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว
“ตอนนี้มีรายงานว่าพวกเขากำลังหาบ้านพักในลอสแองเจลิส และนิวยอร์กซิตี - ที่ซึ่งบรรดาเซเลบที่ถามหาความสันโดษชอบไปอยู่กัน - แถมยังติดต่อพูดคุยกับโกลด์แมน แซคส์ (สถาบันการเงินชื่อดังของสหรัฐ) ตั้งแต่เมื่อเดือนพ.ย.ที่แล้ว หลายเดือนก่อนประกาศถอนตัวจากราชวงศ์”
เมื่อเทียบกับ ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ พระมารดาเจ้าชายแฮร์รีแล้ว พระองค์ปฏิบัติราชกิจ ทรงปรับเปลี่ยนทัศนคติแง่ลบที่ผู้คนมีต่อโรคเอดส์ด้วยการสัมผัส ทักทาย และจุมพิตผู้ป่วยโรคนี้อย่างไม่หวาดกลัว ไดอานาทรงใช้ความเป็นเจ้าหญิงเพื่อกระตุ้นการเคลื่อนไหวของสังคม
ต่างจากเจ้าชายแฮร์รีที่ตรัสกับ บ๊อบ ไอเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท วอลท์ ดิสนีย์ ด้วยข้อความแฝงว่าเมแกนอยากทำงานพากย์เสียงในภาพยนตร์การ์ตูน จนชาวเน็ตต่างลงความเห็นว่าแม้แต่ บียอนเซ่ นักร้องดีว่าชื่อดังที่ร่วมงานเปิดตัวหนังเรื่อง The Lion King รอบปฐมทัศน์ ในกรุงลอนดอน ยังรู้สึกอายจนยิ้มหน้าเจื่อนเมื่อได้ยินเจ้าชายแฮร์รีของานให้พระชายา
ด้าน ออเบรย์ แฮนเซน จาก ซีเอ็นเอ็น ระบุในบทความว่าเจ้าชายแฮร์รีและเมแกนไม่สามารถเก็บซ่อนความทะเยอทะยานของตัวเองได้
“หากเจ้าชายแฮร์รีและเมแกนตัดสินใจที่จะถอยหลัง ประกอบราชกิจที่ไม่เป็นพิธีรีตองมากนัก และใช้ชีวิตส่วนพระองค์จริงๆ ก็คงไม่มีดราม่า แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาทำจริงๆ พวกเขาวางแผนว่าจะย้ายมาอยู่ที่ลอสแองเจลิส จากนั้นแฮร์รีกล่าวอย่างโจ่งแจ้งในกลุ่มสังคมนักธนาคารนักลงทุนถึงเรื่องราวการสิ้นพระชนม์ของพระมารดา”
เรื่องการเหยียดผิวเมแกนไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้ย้ายมาอเมริกา แต่แฮนเซนเชื่อว่าสาเหตุหลักคือเรื่องเงิน และความทะเยอทะยานของทั้งเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน
#ราชวงศ์อังกฤษ #ควีนเอลิซาเบธที่2 #เจ้าชายแฮร์รี #เมแกน #AssavarakChannel
เดลีเมล์ รายงานกระแสตีกลับของสื่ออเมริกันหลายสำนัก หลังเกิดกรณี “เม็กซิต” ที่ เจ้าชายแฮร์รี และ เมแกน พระชายา ทรงถอดถอนพระองค์จากการเป็นสมาชิกระดับสูงของ ราชวงศ์อังกฤษ และเสด็จข้ามน้ำข้ามทะเลไปใช้ชีวิตส่วนพระองค์ในแคนาดา เมื่อปลายเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนสื่อฝั่งสหรัฐแห่รายงานข่าวแสดงความเห็นใจดยุกและดัชเชสแห่งซัสเส็กซ์ว่าคงทนอยู่ภายใต้แรงกดดันของราชธรรมเนียม กฎระเบียบ และการถูกจับตาตลอดเวลา รวมถึงยกย่องชื่นชมว่าทั้งสองพระองค์ทรงติดดิน ประสงค์จะอยู่อย่างสงบเป็นส่วนตัว และทรงเป็นเชื้อพระวงศ์ยุคใหม่ที่เห็นความสำคัญอย่างยิ่งกับสิ่งแวดล้อม
มอรีน คัลลาฮาน คอลัมนิสต์แห่ง นิวยอร์กโพสต์ เขียนบทความโจมตีเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน ภายหลังทั้งคู่ปรากฏตัวและกล่าวสุนทรพจน์ในงานประชุม เจพีมอร์แกน อัลเทอร์เนทีฟ อินเวสต์เมน ซัมมิต ของ เจพีมอร์แกนเชส ธนาคารยักษ์ใหญ่ของสหรัฐที่เกี่ยวเนื่องกับการจุดชนวนก่อวิกฤติเศรษฐกิจโลกในปี 2551
โดยคัลลาฮานเรียกเจ้าชายแฮร์รีและเมแกนว่าเป็นผู้ชอบฉกฉวยหาผลประโยชน์ใส่ตัว ใช้ฐานันดรศักดิ์สร้างรายได้โดยไม่ได้ปฏิบัติราชกิจ และใช้ชีวิตอย่างเสแสร้งว่าให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ในขณะที่เดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว
“ตอนนี้มีรายงานว่าพวกเขากำลังหาบ้านพักในลอสแองเจลิส และนิวยอร์กซิตี - ที่ซึ่งบรรดาเซเลบที่ถามหาความสันโดษชอบไปอยู่กัน - แถมยังติดต่อพูดคุยกับโกลด์แมน แซคส์ (สถาบันการเงินชื่อดังของสหรัฐ) ตั้งแต่เมื่อเดือนพ.ย.ที่แล้ว หลายเดือนก่อนประกาศถอนตัวจากราชวงศ์”
เมื่อเทียบกับ ไดอานา เจ้าหญิงแห่งเวลส์ พระมารดาเจ้าชายแฮร์รีแล้ว พระองค์ปฏิบัติราชกิจ ทรงปรับเปลี่ยนทัศนคติแง่ลบที่ผู้คนมีต่อโรคเอดส์ด้วยการสัมผัส ทักทาย และจุมพิตผู้ป่วยโรคนี้อย่างไม่หวาดกลัว ไดอานาทรงใช้ความเป็นเจ้าหญิงเพื่อกระตุ้นการเคลื่อนไหวของสังคม
ต่างจากเจ้าชายแฮร์รีที่ตรัสกับ บ๊อบ ไอเกอร์ ประธานบริหาร บริษัท วอลท์ ดิสนีย์ ด้วยข้อความแฝงว่าเมแกนอยากทำงานพากย์เสียงในภาพยนตร์การ์ตูน จนชาวเน็ตต่างลงความเห็นว่าแม้แต่ บียอนเซ่ นักร้องดีว่าชื่อดังที่ร่วมงานเปิดตัวหนังเรื่อง The Lion King รอบปฐมทัศน์ ในกรุงลอนดอน ยังรู้สึกอายจนยิ้มหน้าเจื่อนเมื่อได้ยินเจ้าชายแฮร์รีของานให้พระชายา
ด้าน ออเบรย์ แฮนเซน จาก ซีเอ็นเอ็น ระบุในบทความว่าเจ้าชายแฮร์รีและเมแกนไม่สามารถเก็บซ่อนความทะเยอทะยานของตัวเองได้
“หากเจ้าชายแฮร์รีและเมแกนตัดสินใจที่จะถอยหลัง ประกอบราชกิจที่ไม่เป็นพิธีรีตองมากนัก และใช้ชีวิตส่วนพระองค์จริงๆ ก็คงไม่มีดราม่า แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาทำจริงๆ พวกเขาวางแผนว่าจะย้ายมาอยู่ที่ลอสแองเจลิส จากนั้นแฮร์รีกล่าวอย่างโจ่งแจ้งในกลุ่มสังคมนักธนาคารนักลงทุนถึงเรื่องราวการสิ้นพระชนม์ของพระมารดา”
เรื่องการเหยียดผิวเมแกนไม่ใช่ประเด็นที่ทำให้ย้ายมาอเมริกา แต่แฮนเซนเชื่อว่าสาเหตุหลักคือเรื่องเงิน และความทะเยอทะยานของทั้งเจ้าชายแฮร์รีและเมแกน
#ราชวงศ์อังกฤษ #ควีนเอลิซาเบธที่2 #เจ้าชายแฮร์รี #เมแกน #AssavarakChannel